ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ? /โดย ลงทุนแมน
ประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีประชากรเพียงราว ๆ 5.7 ล้านคน
แต่สามารถส่งออกบริการด้านการเงินมากเป็นอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
คิดเป็นมูลค่าถึง 1,210,000 ล้านบาท ในปี 2019
จากการจัดอันดับเมืองศูนย์กลางการเงินโลกของ Long Finance ประจำปี 2021
สิงคโปร์คือศูนย์กลางการเงินอันดับ 5
เป็นรองเพียงนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมหานครหลักของประเทศมหาอำนาจ
กับฮ่องกง ที่เป็นเมืองเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างโลกกับจีนแผ่นดินใหญ่
สำหรับประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1965 และแทบไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไรเลย
แม้แต่น้ำจืดก็ยังขาดแคลนจนต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
แต่สามารถเติบโตจนแซงหน้ามหานครในหลายประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า
และก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแถวหน้าของโลกได้ภายในเวลาไม่ถึง 50 ปี..
ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ มีเส้นทางเป็นอย่างไร ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ?
ถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็ก ไม่ค่อยเหมาะสมกับการเพาะปลูก และแทบไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
แต่เกาะสิงคโปร์ยังมีความโชคดีอยู่ประการหนึ่ง คือ
“ทำเลที่ตั้งที่อยู่ปลายสุดของคาบสมุทรมลายู”
ทำเลนี้เป็นจุดสำคัญของเส้นทางเดินเรือ ที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออก กับอินเดียและยุโรป
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 อังกฤษรวบรวมดินแดนแถบนี้และเรียกว่า “อาณานิคมช่องแคบ”
สิงคโปร์จึงถูกวางให้เป็นเมืองท่าสำคัญของบริษัท บริติช อีสต์ อินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่เดินเรือทำการค้าขายระหว่างยุโรป กับอินเดียและโลกตะวันออก
ต่อมาเมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องที่ได้รับความนิยมสูงในยุโรป แร่ธาตุที่จะนำมาทำกระป๋องก็คือ ดีบุก ซึ่งพบมากแถบคาบสมุทรมลายู เมืองท่าสิงคโปร์จึงถูกพัฒนาให้เป็นตลาดค้าดีบุกที่สำคัญของโลก
นอกจากดีบุกแล้ว การนำยางพาราเข้ามาปลูกในแถบมลายูในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ก็ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางของตลาดประมูลยางพาราอีกหนึ่งตำแหน่ง
การเป็นทั้งเมืองท่า เป็นศูนย์กลางการค้าดีบุกและยางพารา ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในสิงคโปร์คึกคัก ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาเปิดกิจการธนาคาร
ธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่เข้ามาเปิดทำการในสิงคโปร์ คือ The Union Bank of Calcutta
เปิดในปี 1840 มีการจัดตั้งสกุลเงินประจำอาณานิคมช่องแคบ คือ Straits Dollar ในปี 1845
ส่วนธนาคารแห่งแรกที่ก่อตั้งในสิงคโปร์ ก่อตั้งโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพมาจากกวางตุ้ง
ชื่อว่า Kwong Yik Bank ในปี 1903 และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยธนาคารอีกหลายแห่ง
แต่ก็มีธนาคารมากมายที่ล้มหายตายจาก หรือถูกควบรวมกับธนาคารอื่น ๆ
ส่วนธนาคารที่ยังดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันก็คือ
OCBC หรือ Oversea-Chinese Banking Corporation Limited ซึ่งเกิดจากการควบรวมธนาคารของชาวจีนฮกเกี้ยน 3 แห่ง ในปี 1932
และอีกธนาคารหนึ่งก็คือ UOB หรือ United Overseas Bank ซึ่งก่อตั้งโดยชาวมาเลย์เชื้อสายจีนในปี 1935
แต่ท่ามกลางการวางรากฐานด้านการเงินการธนาคารของสิงคโปร์
การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองท่าแห่งนี้ต้องหยุดชะงักลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะถูกยึดครองโดยกองทัพญี่ปุ่น
เมื่อหลังจบสงคราม อาณานิคมช่องแคบได้รับเอกราชจากอังกฤษ และสิงคโปร์ก็ได้ขอรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย ในปี 1963
แต่ด้วยปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ และอุดมการณ์ทางการเมือง
ท้ายที่สุดสิงคโปร์จึงแยกตัวออกจากมาเลเซีย และก่อตั้งประเทศในปี 1965
พร้อมกับตั้งสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ของตัวเองในอีก 2 ปีถัดมา
สิงคโปร์ถือกำเนิดประเทศด้วยการไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
และเต็มไปด้วยแรงงานชาวจีนที่หลั่งไหลมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในช่วงหลังสงครามโลก
ลี กวน ยู (Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิภาพความเป็นอยู่ รวมไปถึงการสร้างทักษะให้กับแรงงาน ต่อยอดจากการเป็นเมืองท่าค้าขาย
มีการจัดตั้ง Housing and Development Board เพื่อดูแลในเรื่องที่พักอาศัย
และสร้างนิคมอุตสาหกรรมในเขต Jurong ทางตะวันตกของเกาะ
เพื่อสร้างงานในภาคอุตสาหกรรม
โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ทั้ง 2 โครงการ ต้องใช้เงินลงทุนสูง รัฐบาลสิงคโปร์จึงลงทุนเองบางส่วนในโครงการเหล่านี้ และได้ตั้ง The Development Bank of Singapore Limited หรือ ธนาคาร DBS ในปี 1968 เพื่อรองรับเงินทุน กระตุ้นให้เงินทุนหมุนเวียน และโครงการพัฒนาดำเนินไปอย่างราบรื่น
เมื่อผู้คนมีที่อยู่อาศัย มีงานทำ และค่อย ๆ หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว รัฐบาลก็ต้องวางแผนต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ประการแรก: พัฒนาการศึกษา
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างสิงคโปร์ ก็คือ “ทรัพยากรมนุษย์”
รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญต่อนโยบายการศึกษาอย่างสูงสุด โดยมีการปฏิรูปคุณภาพของระบบ และมาตรฐานการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากการมีบุคลากรครูคุณภาพสูง โดยครูทุกคนต้องจบการศึกษาในด้านที่เกี่ยวข้อง หลังจบการศึกษาต้องเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพครูจากสถาบันการศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์ (National Institute of Education หรือ NIE) เป็นเวลา 1 ปี เมื่อปฏิบัติหน้าที่ครูแล้วต้องได้รับการประเมิน และพัฒนาในทุก ๆ ปี
และด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษาของผู้คนในสิงคโปร์ ที่มีทั้งชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวทมิฬ ซึ่งแต่ละเชื้อชาติต่างก็มีการใช้ภาษาเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป
สิ่งที่จะหลอมรวมให้คนทุกเชื้อชาติสามารถอยู่ร่วมกันก็คือ
“ชาวสิงคโปร์ทุกคนจะต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้”
นำมาสู่ระบบการเรียนการสอนสองภาษา ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
ส่วนภาษาที่สองก็เป็นภาษาของแต่ละเชื้อชาติ
รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้สร้างทางเลือกในการศึกษาระดับมัธยมให้กับประชาชน โดยแบ่งเป็น
หลักสูตรมัธยมศึกษาเชิงวิชาการ สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
และหลักสูตรมัธยมศึกษาโพลีเทคนิค สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในสายอาชีวะ
ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ก็ผลักดันมาตรฐานในการเรียนสายอาชีวะให้มีคุณภาพสูง
เพราะมองว่านักเรียนแต่ละคนมีความถนัดทางวิชาการไม่เท่ากัน และสายอาชีวะสามารถผลิตบุคลากรเพื่อป้อนตลาดแรงงานในทันที
โดยหนึ่งในสายวิชาชีพ ที่รัฐบาลผลักดันตั้งแต่การก่อตั้งวิทยาลัยอาชีวะแห่งแรก ๆ ก็คือ “นักบัญชี”
สำหรับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มีการจัดตั้ง National University of Singapore (NUS) ที่เกิดจากการควบรวมมหาวิทยาลัย 2 แห่งในปี 1980 และเริ่มพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจัดตั้ง NUS Entrepreneurship Centre ในปี 1988
ซึ่งในปีการศึกษา 2022 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
จากการจัดอันดับโดย QS
ต่อมาในปี 1981 มีการจัดตั้ง Nanyang Technological University (NTU)
ซึ่งก็กลายเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย
โดยมี Nanyang Business School เป็นสถาบันด้านบริหารธุรกิจอันดับ 1 ของสิงคโปร์
เมื่อสร้างแรงงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะในภาคบริหารธุรกิจและการเงิน รวมไปถึงด้านกฎหมาย และแรงงานส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี
ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้สิงคโปร์มีความเป็นเมืองนานาชาติ และมีข้อได้เปรียบดึงดูดบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน บริษัทด้านบัญชี และกฎหมาย ให้เลือกมาตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์
รัฐบาลได้จัดตั้ง ธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore หรือ MAS) ในปี 1971 เพื่อควบคุมสถาบันการเงิน และบริหารจัดการนโยบายทางการเงิน
ด้วยความที่สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็กและเป็นเมืองท่าค้าขาย และพึ่งพาการค้าจากต่างประเทศสูงมาก สิงคโปร์จึงอาศัยกลไก “อัตราแลกเปลี่ยน” เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายการเงิน ภายใต้การบริหารจัดการของ MAS
ประการที่ 2: ปฏิรูประบบราชการ
เมื่อวางแผนระบบการศึกษาเพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพัฒนาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติก็คือ “ความโปร่งใส”
ในช่วงหลังการแยกตัวเป็นเอกราช
สิงคโปร์เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
รัฐบาลภายใต้การนำของนายก ลี กวน ยู ได้ย้ายสำนักสืบสวนการทุจริตคอร์รัปชัน (Corrupt Practices Investigation Bureau หรือ CPIB)
ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1952 มาอยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี
และทำการปฏิรูปกฎหมายป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน ให้ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
ทั้งการตัดสินลงโทษผู้ต้องหาโดยไม่ต้องมีหลักฐานชัดเจน แค่มีพฤติกรรมโน้มเอียงไปในทางไม่ซื่อสัตย์ก็สามารถตัดสินได้ หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่าผิดจริง ก็จะได้รับโทษอย่างรุนแรง
นอกจากโทษทางกฎหมายแล้ว ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินที่ทำการทุจริตด้วย
หลังจากตัวบทกฎหมาย และกระบวนการลงโทษเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ขั้นต่อมา คือการเพิ่มผลตอบแทนให้ข้าราชการ โดยเริ่มในปี 1989
เพื่อจูงใจให้คนเก่งเข้ารับราชการ และลดการรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ
รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เวลาต่อสู้กับการคอร์รัปชันมาเป็นเวลากว่า 50 ปี
จนสิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใส (Corruption Perceptions Index)
สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2020
เมื่อประเทศมีความโปร่งใส ก็ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่รัฐบาลก็มีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งการคมนาคมขนส่ง ไปจนถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้ก่อตั้ง คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Board หรือ EDB) เพื่อวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ชัดเจน
จากเมืองท่าปลอดภาษี ในช่วงทศวรรษ 1970s สิงคโปร์ต่อยอดมาสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ในทศวรรษ 1980s
และในช่วงทศวรรษ 1990s ประเทศแห่งนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางบริการทางการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประการที่ 3: พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดตั้ง The Smart Nation and Digital Government Group หรือ SNDGG รับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐสู่ระบบดิจิทัล เพื่อเก็บข้อมูล และประยุกต์ใช้ในการวางแผนพัฒนาประเทศ ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มี Big Data โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงิน
รัฐบาลจึงสามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงินได้ ป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองทำให้สิงคโปร์ได้รับความน่าเชื่อถือ สามารถเป็นศูนย์กลางทางการเงิน
รัฐบาลยังต่อยอดและให้การสนับสนุนเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้สิงคโปร์เป็น The FinTech Nation
ทั้งการเปิดให้บริษัท FinTech จากทั่วโลก ขอใบอนุญาต Digital Banking ได้เต็มรูปแบบ
ไม่ปิดกั้นเฉพาะองค์กรในสิงคโปร์ และให้การสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินหลายรูปแบบ
ทั้งระบบชำระเงิน, บล็อกเชน ไปจนถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ในขณะที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ ก็เป็นผู้ริเริ่มจัดงาน Singapore FinTech Festival ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2016 และจัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นมหกรรม FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปัจจุบัน ธนาคารสิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่ง คือ DBS, OCBC และ UOB
ล้วนเป็น 3 ธนาคารที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน มีผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย ทั้งประกันภัย ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ไปจนถึงสกุลเงินดิจิทัล
ภาคบริการการเงินคิดเป็นสัดส่วนราว 7.4% ของการส่งออกสินค้าและบริการของสิงคโปร์ ซึ่งบริการขั้นสูงเหล่านี้ มีส่วนสำคัญที่ผลักดัน GDP ต่อหัวของชาวสิงคโปร์ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ในปี 1965 ที่ก่อตั้งประเทศ ชาวสิงคโปร์เคยมี GDP ต่อหัวน้อยกว่า เจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักร ประเทศแห่งนวัตกรรมอย่างเยอรมนี หรือประเทศมหาอำนาจในเอเชียอย่างญี่ปุ่น
แต่ในปี 2020 GDP ต่อหัวชาวสิงคโปร์แซงหน้าประเทศเหล่านี้ทั้งหมด และมากเป็นเกือบ 1.5 เท่า ของอดีตเจ้าอาณานิคม..
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากการวางแผนระยะยาว
ทั้งการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสำหรับงานบริการ
การพัฒนาประเทศให้โปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล
รวมไปถึงการช่วยเหลือของภาครัฐในทุก ๆ ด้าน
จากเมืองท่าศูนย์กลางการค้า สิงคโปร์ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค และกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงินแห่งศตวรรษที่ 21
เรื่องราวของประเทศเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ บอกให้เรารู้ว่า
เมื่อเริ่มเป็นศูนย์กลางอะไรสักอย่าง และสั่งสมประสบการณ์จนมากพอแล้ว
ก็จะง่ายในการดึงดูดสิ่งใหม่ ๆ และกลายเป็นศูนย์กลางด้านอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
และในวันนี้ สิงคโปร์กำลังเตรียมพร้อมทุกอย่าง
สำหรับการเป็นศูนย์กลางอีกหลายด้าน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-http://prp.trf.or.th/download/2538/
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=404&year=2019&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://remembersingapore.org/2011/10/07/money-never-sleeps-a-brief-history-of-banking-in-sg/
-https://lkyspp.nus.edu.sg/docs/default-source/case-studies/entry-1516-singapores_transformation_into_a_global_financial_hub.pdf
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.PCAP.CD?locations=SG-GB-JP-DE
-https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/dbs-cryptocurrency-trading-130964?fbclid=IwAR2VVHEH9_n29fpyXSQ6EgSGDm63Lhm3aQF0aj7I8LIQ_B2wgjIXSazIVxU
同時也有382部Youtube影片,追蹤數超過9,410的網紅Miley青山舞莉,也在其Youtube影片中提到,下地 Paul and Joe Moisturizing Foundation Primer S01 ファンデーション CLIO KILL COVER アイシャドウ CLIO Pro Eye Palette mini アイライナー Maybelline Hypersharp Eyeliner...
「university in singapore」的推薦目錄:
- 關於university in singapore 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於university in singapore 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最讚貼文
- 關於university in singapore 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的最佳貼文
- 關於university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的精選貼文
- 關於university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的最讚貼文
- 關於university in singapore 在 National University of Singapore - Home | Facebook 的評價
university in singapore 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最讚貼文
#ApplyQuote Chia sẻ kinh nghiệm du học ở Bỉ & Pháp
Bạn Thu Le trong group Scholarship Hunters đã chia sẻ cực kì chi tiết về việc apply du học tại Bỉ 🇧🇪 , Pháp 🇫🇷 cũng như kinh nghiệm sống và làm việc ở châu Âu của mình. Các bạn nào quan tâm thì đọc ngay bài viết siêu hay ho dưới đây nhé! Bạn ý cũng là cựu học sinh lớp học bổng HannahEd mới có thêm học bổng toàn phần chính phủ Đan Mạch vừa sang lại châu Âu học tuần này đó ❤️
——-
Mình học cử nhân BBA tại KU Leuven Bỉ và sau đó đc trg chọn học thêm IBBA tại KEDGE Pháp theo ctr Double Degree 4 năm 2 bằng ĐH (Mình là ng đầu tiên cũng là duy nhất tham gia ctr này cho đến thời điểm hiện tại). Trước khi học BBA tại KUL thì mình học ISB-UEH hệ Western Sydney University đc 1 năm, trong tgian này mình tự học thêm SAT và tham gia thêm mấy hđnk để improve application. Mình tn trg chuyên tỉnh lẻ GPA 8.9-9.0-9.1 và có giải HSGQG môn t. Anh và IELTS 7.5.
1️⃣ Tại sao mình chọn Bỉ 🇧🇪 ?
Thật ra nhà mình hướng đi Úc vì có ng thân bên đó nhưng cá nhân mình thấy du học Úc đắt và ko biết liệu học xong có thể xin việc ở lại để bù khoản tiền đấy ko. Nên mình đã chọn Châu Âu. Cộng thêm từ cấp 2 mình đã học thêm t. Pháp nên cũng muốn học ở French-speaking country để trau dồi thêm. Sau khi nghiên cứu thì mình chọn học ctr BBA dạy bằng tiếng Anh ở KUL (70% vì ranking - năm đấy trg rank #35 tgioi theo The Higher Education, 20% vì location của trg ngay tại Brussels trái tim của EU dễ du lịch, mtrg international và có nhiều job opportunities, 10% vì dân Bỉ nói t. Anh rất ok ko như dân Pháp và curriculum chỉ có 3 NĂM lại nhìn khá toàn diện, kiểu học mỗi thứ 1 tí rất hợp vs đứa chưa định hướng đc major như mình 😂)
Link ctr BBA dành cho bạn nào muốn tham khảo thêm:
https://feb.kuleuven.be/eng/prospective-students/bachelor-of-business-administration (Overall info)
https://onderwijsaanbod.kuleuven.be//opleidingen/e/SC_53266472.htm (Curriculum)
Entry requirements:
Tn cấp 3, IELTS 6.5 (ko có skill nào dưới 5.5) hoặc TOEFL 90, SAT Math 530 hoặc 570 trở lên cho fast admission track, ACT 21 hoặc 23 trở lên cho fast admission track
Học phí: 1750 EUR (tầm 48tr VNĐ)
📍 Câu hỏi mình hay nhận đc là trg có xét điểm tổng ko hay là điểm em vừa đủ thì có đc nhận ko hay nên càng cao càng tốt? --> Với kinh nghiệm làm student ambassador và guide bao nhiêu svien VN vào KUL mấy năm nay thì mình khẳng định là nếu bạn vừa đủ điểm như ycau IELTS 6.5 + SAT Math 530 (trg ko xét điểm tổng đâu) thì bạn auto đc nhận nhé. Dù ranking trg cao nhưng quan điểm của Bỉ là education is for everyone nên đầu vào rất dễ, as long as you meet the entry requirements. Giáo dục của Bỉ theo kiểu đào thải dần, nếu bạn ko siêng năng và ko pass đủ credits thì sẽ ko đc học tiếp. That's why lớp mình năm đấy vào tận >300 bạn nhưng đến cuối cùng chỉ tn đúng tgian tầm 30 bạn (có bạn đã bị trg expell, có bạn đúp lớp, có bạn transfer sang hệ UAS - hogeschool, có bạn chuyển trg luôn)
Năm nay trg có thêm ngành mới là Bachelor of Science in Business Engineering https://feb.kuleuven.be/eng/prospective-students/bachelor-of-business-engineering/overview --> bạn nào là dân Kĩ thuật nhưng vẫn muốn có kiến thức nền về Kinh doanh có thể tham khảo ctr này 😉
📍 Học xong BBA làm gì?
Đa số các bạn sẽ chọn học lên tiếp 1 năm MBA (Master of Science in Business Administration, not professional MBA) với tầm 12 specializations như Finance, Marketing, Strategy, Logistics, International Relations, Information System (ngành này dễ kiếm việc hơn các ngành còn lại✌️) etc. vì BBA khá là chung. Cộng thêm ở Bỉ mng đều tn Master rồi mới bắt đầu xin việc. Kiểu như đây là 1 việc rất tự nhiên ấy 😁
Một phần nhỏ khác sẽ đi làm như mình, nhưng sẽ về nước làm vì Bỉ rất rất coi trọng bằng cấp. Nhưng mình vẫn apply đc chương trình MA của Citibank (Management Trainee) nên du học Bỉ cũng ko hẳn lỗ nhỉ? 😜
2️⃣ Chuyển tiếp sang Pháp 🇫🇷 học Double Degree và đi làm tại Paris
Sau 2 năm học thì mình có option đi exchange vào năm 3 hoặc đi Double Degree (năm đấy thì mới có ctr này lần đầu). Mình đc chọn đi exchange tại Peking University 🇨🇳 và học Double Degree tại KEDGE bên Pháp. Mình đã rất băn khoăn vì exchange thì 1 sem sẽ về là học thêm 1 sem nữa sẽ tốt nghiệp và lên MBA luôn. Trong khi Double Degree thì mình phải học thêm 3 sem và đi làm 6 tháng. Nhưng cuối cùng mình đã chọn đi Pháp, dù vô cùng thích Bắc Đại, vì mình biết thứ mình thiếu trên CV lúc ấy là kinh nghiệm làm việc và chỉ có học Double Degree mình mới có thể đi làm mà job market ở Pháp lại dynamic hơn Bỉ rất nhiều. (Plus, nếu trong trg hợp sau này về VN thì ít ra du học Pháp có tiếng hơn dh Bỉ, và còn có thể xin Working Holiday Pass ở Sing nữa)
Ở Pháp mình học tại KEDGE - 1 business school rank #2 ngành IBBA (https://student.kedge.edu/programmes/international-bba/curriculum) và ko hề trả hphi (trong khi các bạn bthg sẽ trả tầm 10kEUR/ năm) trong khi đc học 1 curriculum vô cùng practical (E-Business, Digital Marketing, Luxury Strategy, Chinese Business, etc.) mà còn đc ăn ké corporate network siêu xịn của trg 🤩 Lúc ở Pháp mình còn đc làm 1 start-up chuyên về parfum ở Entrepreneurship Hub của trg và gặp rất nhiều bạn quốc tế (mang tiếng học ở Pháp nhưng lớp mình chỉ có 1 ng Pháp, còn lại đều là các bạn học Double Degree từ Mỹ/ Ireland/ UK/ TBN/ Đức/ Nga chả khác gì học ở English-speaking country nhé 👏) Trong tgian này mình còn đc nhận Erasmus+ grant nên tính ra ăn ở rẻ hơn bên Bỉ khá nhiều.
Hết 3 sem ở Pháp, mình khá stress vì phải tìm internship abroad, outside Việt Nam và Bỉ. Ở Pháp thì mình ko tự tin lắm vì tiếng Pháp ko sõi nhưng nhờ network của trg, mình đã land 1 offer tại Euler Hermes (Allianz Group) tại Paris và 1 offer tại Singapore (mình tự tìm). Mình quyết định lên Paris làm internship vì lương cao hơn, lại có housing allowance từ Chính phủ nên sẽ sống thoải mái hơn. Bạn nào cần các database tìm jobs tại Pháp và Singapore 🇸🇬 có thể inb mình share nhé.
🍀 Góc qcao nhỏ cho cty cũ: Euler Hermes tại Paris là headquarter luôn nên cviec mình làm rất nhiều và đa dạng, mỗi ngày đều làm với các regional managers từ Pháp, Đức, Hà Lan, Ý, Anh, Bắc Âu, Bắc Mỹ và APAC để cùng manage các customer transformation projects. Tgian ở đây mình đã học đc rất nhiều kiến thức mà khi pvan với Citibank các Heads đều rất impressed và highly appreciated. Vì là HQ nên Euler Hermes có nhiều job offers tiếng Anh lắm nên bạn nào sau này có tìm việc ở Pháp mà t. Pháp hạn chế thì keep EH in mind nhé 😁
3️⃣ Chi phí ăn ở
🇧🇪🇧🇪🇧🇪 Leuven - Mấy bạn lưu ý dùm mình là chỉ mang tính tham khảo nha, vì mình rời Bỉ cũng 2 năm r ah
Dù học ở Brussels nhưng mình ở Leuven (cách Brussels 30' đi tàu cực nhanh) vì giá cả rẻ hơn
🏠Tiền nhà: ~250EUR (trong khi ở Brussels tầm ~350EUR trở lên)
🚉Tiền đi lại: Thẻ bus năm 50EUR (đi khắp vùng Flanders), thẻ tàu zone Leuven - Brussels tầm 20EUR/ tháng
🍱Tiền ăn: ~20-25EUR/ tuần nếu tự nấu (khuyến khích đi Colruyt và Lidl thay vì Carrefour hay Delhaize nếu muốn tk tiền nhé), 1 bữa ăn ở trg tầm 5EUR --> Tổng 1 tháng tự nấu tầm 100EUR, nếu ăn ngoài thì 200EUR nhé
📱Tiền điện thoại: 15EUR/ tháng
💳Chi phí phát sinh khác (shopping): ~100EUR
➡️ Tổng chi phí ăn ở 1 tháng: 450EUR trở lên (Mình hồi đó dùng tầm 350EUR thui vì mình toàn ở nhà tự học ít lên lớp :)))
🇫🇷🇫🇷🇫🇷 Marseille - nơi mình học
🏠Tiền nhà: 360EUR, nhà nước trợ cấp 210EUR (bạn dhs nào cũng đc, ít nhiều tùy điều kiện chỗ bạn ở, vùng bạn sống và thu nhập của bạn) còn 150EUR
🚉Tiền đi lại: 18.3EUR/ tháng (bus, tram, train, v.v)
🍱Tiền ăn (mình ở trg nhiều nên ăn trong canteen là đa số): 50EUR/ tuần
📱Tiền điện thoại: 15EUR/ tháng
💳Chi phí khác: ~100EUR
➡️Tổng chi phí ăn ở 1 tháng: 480EUR trở lên (mình có thêm Erasmus grant cover nữa nên chẳng còn bao nhiêu)
🇫🇷🇫🇷🇫🇷 Paris - thành phố hoa lệ nơi mình làm
🏠Tiền nhà: 480EUR (chính phủ trợ cấp tầm 110EUR tùy vùng như đã nói) còn 370EUR
🚉Tiền đi lại: 350EUR/ năm (tất cả 5 zones toàn Paris) - cty trả 50%, vùng mình ở trả thêm 50% --> 0 đồng :))
🍱Tiền ăn: lúc còn đi làm ở cty 20EUR/ tuần vì tiền ăn cty cũng trả :)), lúc lockdown wfh thì mình ăn 40EUR/ tuần
📱Tiền điện thoại: 15EUR/ tháng
💳Chi phí khác: 100EUR
➡️ Tổng chi phí ăn ở 1 tháng: 675EUR (Mình đi thực tập có lương 1200EUR gross nên cover hết đc khoản này và còn dư cũng kha khá)
Post của mình cover vài điểm chính mà các bạn hay hỏi như trên. Nếu bạn nào còn câu hỏi nào khác có thể cmt hoặc inb mình nhé ☺️
P/s: Nếu mng muốn học hỏi knghiem làm sao để highlight bộ hồ sơ xin học bổng (và cả job) của bản thân thì có thể hỏi chuyên gia Hoa Dinh nha 😉 C Hoa mát tay và có tâm lắm luôn í, biết gì là nhiệt tình share hết ko giấu nghề tí nào 🥰
Link gốc bài viết: https://www.facebook.com/groups/scholarshiphunter/permalink/2773883066202400/
❤ Tag và chia sẻ bài viết đến bạn bè em nhé ❤
#HannahEd #duhoc #hocbong #sanhocbong #scholarshipforVietnamesestudents
university in singapore 在 Facebook 的最讚貼文
[7th Hong Kong Internet Governance Forum] (HKIGF)
Fake News Law: Effective to combat online disinformation?
Date: 15th Sep, 2021 (WED)
Time: 19:00 - 21:00 HKT (11:00 - 13:00 UTC)
Venue: Zoom meeting room (the link will be sent to your email address ) & ISOC HK Facebook
Language: English
Moderator: Edmon Chung - Board of Director, ISOC HK
Discussion Topic:
Fake news law: Effective to combat disinformation online?
立法打擊假新聞,效用大唔大?
The HKSAR government is considering to implement "fake news" law to combat disinformation, especially on online media platforms and social media, due to the appearance of a considerable amount of misinformation and disinformation online. However, some voiced out it might undermine freedom of speech, freedom of press and free flow of information online. Is legislation an effective way to combat "fake news" online? What impact will it cause to the media and online community? What can we learn from "fake news" law in other countries?
Speakers:
Mr. Benjamin Ang - Senior Fellow, S. Rajaratnam School of International Studies (RSIS), Nanyang Technological University (NTU)
Mr. Ronson Chan 陳朗昇 - Chairperson, The Hong Kong Journalists Association (HKJA)
Mr. Raymond Li 李文 - Director, Institute for Journalism and Society (IJS), Hong Kong Baptist University (HKBU)
Mr. Charles Mok 莫乃光 - Director, Tech for Good Asia
In this edition of HKIFG, we have invited experts from different aspects, namely journalist, Hong Kong scholar, IT professional and Singaporean scholar, to talk about their observation and opinion on the potential implementation of "Fake News Law" in Hong Kong. We aim to explore the topic through different perspectives and try to cast new light to the topic by including a case study of a similar enactment in Singapore.
Register here:
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSc3K8oojg80xFZQb96KXgF7eVnCdlLFe3vxG3FI81MV1eziwQ/viewform
#HKIGF #FakeNewsLaw #Misinformation #Disinformation #ISOCHK
university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的最佳貼文
下地 Paul and Joe Moisturizing Foundation Primer S01
ファンデーション CLIO KILL COVER
アイシャドウ CLIO Pro Eye Palette mini
アイライナー Maybelline Hypersharp Eyeliner Softblack
眉毛 Anastasia Beverly Hills Dipbrow Medium Brown
ハイライト Dior Glow Face Palette
リップ Dior (matte one) 786 Rosewood
SHOP NOW FROM LINK BELOW!
NUGU X MADISON KAI
https://abit.ly/miley_madisonkai_youtube
► A B O U T
Hello! I'm Miley and I'm from Tokyo. I was raised in Singapore, Indonesia, and Japan so I think some international kids could relate to me. My videos are focused on my everyday life as a Waseda student but I also love sharing my everyday fashion, vlogs, and other random things. I hope you enjoy💗
► S O C I A L S
Instagram http://instagram.com/milez728
Tik Tok https://vt.tiktok.com/hs2D23/
Twitter https://twitter.com/miley_728
► C O N T A C T
Business Inquiries info@qualiam.com
http://www.qualiam.com/contact.html
Japan 生まれ Indonesia, Singapore, and Japan 育ちの青山舞莉です!早稲田大学の政治経済学部に通っています。スポーツ、フード、おしゃれ、メイク、お出かけ、なんでも経験したい好奇心旺盛なミーの大好きなことをアップしていきます!
ー年齢は?Age?
21歳 im twenty one :)
ー誕生日はいつ?Birthday?
2000年7月28日 July 28th 2000
millennium baby (did i spell that right?)
ー学年は?what year are you?
今は早稲田の大学4年生です!2021の秋から4年生になりました!im a senior in college!! waseda university yay
ーどこの人?where are you from?
im full japanese!! 日本人!
ー身長は?Height?
156cm! i think thats like 5'1
ーカメラは何使ってる? what camera do you use?
my iphone. too lazy to buy a camera lmao
ー編集ソフトウエアどれ使ってる?Editing software?
Canva for thumbnails & Final Cut Pro for my videos :)
青山舞莉のInstagram
https://www.instagram.com/milez728/
青山舞莉のTwitter
https://twitter.com/miley_728
青山舞莉のTikTok
https://t.tiktok.com/i18n/share/user/...
Contact
http://www.qualiam.com/contact.html
university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的精選貼文
SHOP NOW FROM LINK BELOW!
NUGU X MADISON KAI
https://abit.ly/miley_madisonkai_youtube
► A B O U T
Hello! I'm Miley and I'm from Tokyo. I was raised in Singapore, Indonesia, and Japan so I think some international kids could relate to me. My videos are focused on my everyday life as a Waseda student but I also love sharing my everyday fashion, vlogs, and other random things. I hope you enjoy💗
► S O C I A L S
Instagram http://instagram.com/milez728
Tik Tok https://vt.tiktok.com/hs2D23/
Twitter https://twitter.com/miley_728
► C O N T A C T
Business Inquiries info@qualiam.com
http://www.qualiam.com/contact.html
Japan 生まれ Indonesia, Singapore, and Japan 育ちの青山舞莉です!早稲田大学の政治経済学部に通っています。スポーツ、フード、おしゃれ、メイク、お出かけ、なんでも経験したい好奇心旺盛なミーの大好きなことをアップしていきます!
ー年齢は?Age?
21歳 im twenty one :)
ー誕生日はいつ?Birthday?
2000年7月28日 July 28th 2000
millennium baby (did i spell that right?)
ー学年は?what year are you?
今は早稲田の大学4年生です!2021の秋から4年生になりました!im a senior in college!! waseda university yay
ーどこの人?where are you from?
im full japanese!! 日本人!
ー身長は?Height?
156cm! i think thats like 5'1
ーカメラは何使ってる? what camera do you use?
Canon
ー編集ソフトウエアどれ使ってる?Editing software?
Adobe Spark for thumbnails & Final Cut Pro for my videos :)
青山舞莉のInstagram
https://www.instagram.com/milez728/
青山舞莉のTwitter
https://twitter.com/miley_728
青山舞莉のTikTok
https://t.tiktok.com/i18n/share/user/...
Contact
http://www.qualiam.com/contact.html
CREDIT
··················································
Intro by SIMPLY INTROS!
https://youtu.be/u4q69J2PwXM
··················································
university in singapore 在 Miley青山舞莉 Youtube 的最讚貼文
SHOP NOW FROM LINK BELOW!
NUGU X MADISON KAI
https://abit.ly/miley_madisonkai_youtube
► A B O U T
Hello! I'm Miley and I'm from Tokyo. I was raised in Singapore, Indonesia, and Japan so I think some international kids could relate to me. My videos are focused on my everyday life as a Waseda student but I also love sharing my everyday fashion, vlogs, and other random things. I hope you enjoy💗
► S O C I A L S
Instagram http://instagram.com/milez728
Tik Tok https://vt.tiktok.com/hs2D23/
Twitter https://twitter.com/miley_728
► C O N T A C T
Business Inquiries info@qualiam.com
http://www.qualiam.com/contact.html
Japan 生まれ Indonesia, Singapore, and Japan 育ちの青山舞莉です!早稲田大学の政治経済学部に通っています。スポーツ、フード、おしゃれ、メイク、お出かけ、なんでも経験したい好奇心旺盛なミーの大好きなことをアップしていきます!
ー年齢は?Age?
19歳 im nineteen :)
ー誕生日はいつ?Birthday?
2000年7月28日 July 28th 2000
millennium baby (did i spell that right?)
ー学年は?what year are you?
今は早稲田の大学2年生です!2020の秋から3年生になります!im a sophomore in college!! waseda university yay
ーどこの人?where are you from?
im full japanese!! 日本人!
ー身長は?Height?
156cm! i think thats like 5'1
ーカメラは何使ってる? what camera do you use?
Canon
ー編集ソフトウエアどれ使ってる?Editing software?
Adobe Spark for thumbnails & Final Cut Pro for my videos :)
青山舞莉のInstagram
https://www.instagram.com/milez728/
青山舞莉のTwitter
https://twitter.com/miley_728
青山舞莉のTikTok
https://t.tiktok.com/i18n/share/user/...
Contact
http://www.qualiam.com/contact.html
CREDIT
··················································
Intro by SIMPLY INTROS!
https://youtu.be/u4q69J2PwXM
··················································
university in singapore 在 National University of Singapore - Home | Facebook 的推薦與評價
National University of Singapore, Singapore. 494801 likes · 1728 talking about this. Welcome to the official page of the National University of... ... <看更多>