20 ปีของการใส่แว่นสายตาและคอนแทคเลนส์ ลาก่อนนน 👋🏻 ตาชัดแล้วโดยไม่ต้องพึ่งแว่น
ครูมายด์จะเล่าตั้งแต่ต้นเลยนะ....
.
#รีวิวการทำ lasik โดยวิธี Relax smile
มายด์ได้ตัดสินใจไปทำ lasik กับหมอตุลยา
อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ก่อนทำและหลังทำ
โดยเริ่มจากมีการนัดตรวจก่อน ประเมินผลว่าทำได้หรือไม่ได้ หมอให้งดใส่คอนแทคเลนส์ ประมาณ 3-7 วัน
ในกรณีที่แบบ soft lens นะ ไอ้เราก็รีบอยากทำให้เสร็จๆ จบๆ มายด์ก็ขอเค้านัดงดคอนแทค 3 วันพอ วันที่ 4 ก็พร้อมตรวจเลย สรุปว่าทำเลสิกได้
มายด์ทำที่ศูนย์เลสิกแว่นท็อปเจริญ พยาบาลที่นั้นบริการดี คือเข้าไป แทบไม่ต้องรอเลย เดินเข้าห้องตรวจ มีหลายห้องมากๆ ตามขั้นตอนของเค้า
เริ่มจากวัดความดันลูกตา วัดสายตา หลายๆรอบ จนได้ค่าที่ต้องการ และขั้นตอนสุดท้าย คือ หยอดยาขยายม่านตา พยาบาลจะหยอดยาชาและยาหยอดขยายม่านตาพร้อมๆกันเรื่อยๆ
ทุกๆ 5 นาที ประมาณ ห้า - หกรอบได้
จนตาแสบไปหมดและก็เบลอ ตรงนี้คือไม่ชอบมากๆ และตาเราจะเบลอ เกือบเป็นวันเลยอะ เพราะฤทธิ์ยาขยายม่านตา
ผ่านไป 20 นาที ตาเริ่มขยายแล้วก็พบคุณหมอ เช็คลูกตาอีกรอบว่าทำได้หรือไม่ได้
#หมอก็บอกว่าเราทำเลสิกได้สบายเพราะว่าตาเราโตดี
ได้ยินก็ดีใจ ไม่ต้องใส่แว่นอีกแล้วโว้ย และก็ไปพบหมออีกคน ก็คือหมอตุลยา ที่จะเป็นคนทำ เลสิค ให้เรานี่และ หมอก็ตรวจตาอีกรอบ ให้เรากรอกตาไปมา และถามว่าเราเลือกทำแบบไหน เราก็บอกเอาแบบแพงที่สุด เจ็บน้อยที่สุด ก็คือเลือก Relax smile นี่และ แผลจะเล็กมากๆ เกือบ สองมิล ราคาก็จะสูง เก้าหมื่นน นิดๆ
แต่ที่นี่เค้ามีโปรอยู่ คือตัดสินใจเลือกมาก่อนแล้ว หลังจากดูรีวิวมาหลายที่ แล้วก็ถามหมอว่า มีให้บีบลูกบอลไหม กับมีเพลง Relax ไหมตอนทำ หมอก็บอกว่ามีอยู่แล้ว สบายมาก ไม่เจ็บเลย แล้วหมอก็บอกให้พักสายตาอีกวันและ ค่อยมาทำ วันมะรืน ซึ่งเป็นวันศุกร์
ก่อนกลับก็จะมีเลขาหมอมาบรีฟเราว่าต้องทำแบบไหนบ้าง ให้ไปฝึกดูคลิป จ้องนิ่งแสงสีเขียว สีขาว และก็หยอดน้ำตาเทียม ทุกๆ ชั่วโมง ก่อนถึงวันผ่า คิดว่าสบายมาก และดูจากคลิปที่ส่งมา
คือแค่ให้ฝึกจ้องแสงสีเขียวแสงขาว ไม่ยากหรอก 5555
จนมาถึงวันผ่าตัด เราก็มานั่งรอ มาก่อนเพื่อเตรียมตัว พยาบาลจะให้เราไปวัดค่าสายตาอีกรอบ เอาให้ชัวร์ที่สุด
คือค่าสายตาเราอยู่ที่ ซ้าย 425 เอียง 125 ขวา สั้น 550 เอียง 125 หลังจากนั้นก็พาไปเจาะเลือด ตรวจ HIV ถามเค้าว่าเจาะทำไม บอกดูภูมิคุ้มกันร่างกาย สรุปไม่ได้เป็น HIV นะ เลือดปกติดีแข็งแรง ตอนเจาะก็เหมือนโดนหนังยางดีด เสร็จแล้ว จ่ายตัง จ่ายค่ายา เบ็ดเสร็จลดแล้วเหลือ 88,000 บาทหลังจากนั้น เตรียมรอหน้าห้องผ่าตัด
พยาบาลก็จะให้เราเปลี่ยนชุด ใส่เสื้อคลุมทับ ใส่หมวกคลุม ใส่แมส ซึ่งอึดอัดไปหมด ต้องบอกพยาบาลว่าขอเอาแมสลงเปิดตรงจมูกนะ หายใจไม่ออกเลย และเค้าก็จะให้กินยาแก้ปวด ยาคลายเครียดก่อน และก็จะหยอดยาฆ่าเชื้อ ทุก ๆ ห้านาที ประมาณห้ารอบ และหลังจากนั้นจะเช็ดยาฆ่าเชื้อ บริเวณรอบดวงตา อีกครั้ง
ขั้นตอนนี้และตื่นเต้นสุด หมอจะเข้ามาอธิบาย บรีฟเราก่อนทำ ว่าเครื่องจะทำงานแบบไหน จะมีแสงสีเขียว มาที่ตาเรา ให้เรา จ้องไว้ให้นิ่งที่สุด ไม่ว่าจะหายไปไหนก็ต้องจ้องที่เดิม ตามด้วยแสงสีขาว
หมอก็บอกให้จ้องที่จุดเดิมจุดแรกไว้ ห้ามเปลีย่นไม่ว่าแสงจะขยับไปตรงอื่น เราก็ไม่เข้าใจหรอก ต้องลองของจริง
หมอบอกให้มีสมาธิมากที่สุด
#เริ่มเข้าห้องเชือดได้ ก็จะมีพยาบาลในนั้นประมาน สี่คนได้ เตรียมห้อง ที่นอนให้เรา
และก็บรีฟให้เราก่อนคุณหมอเข้ามาอีกรอบ ความรู้สึกนั้นเหมือน
กูจะโดนเชือดแล้ววววว อึดอัดไปหมดเลย แต่มันต้องผ่านไปได้
พอหมอมา หมอก็จะให้พยาบาลหยอดยาชาเรา หลังจากนั้นก็จะเอาพลาสเตอร์แปะ ขนตาล่างบนเรา และเอาที่ล๊อกตา มาล๊อกไว้ ไม่ให้เรากระพริบตาได้เลย และเตียงๆก็ค่อยๆขยับลง ลูกตาข้างขวาเราก็ไปสัมผัส โดนกับเครื่อง คล้ายๆ อารมณ์ใส่คอนแทคเลน วางบนลูกตาเรา
แล้วก็จะมีแสงสีเขียวส่องมาที่ตาเรา หมอบอกว่าให้จ้องไว้ที่เดิม นานที่สุด ถึงแม้มันจะหายไปก็ต้องจ้องไว้ที่เดิมนั้นและ ห้ามเปลี่ยน บอกให้เรามีสมาธิ เสียงเครื่องทำงาน พูดว่า
"เซ้กชั่น เรดดี้ "และพยาบาลก็เริ่มนับ ไปจนถึง 28 วิ ระหว่างนั้นก็บอกดีดี ดีครับ เก่งมาก อีกนิดนึง อีกแค่สิบวิ อีกห้าวิ อีกสามวิ ใกล้แล้ว แล้วแสงสีเขียวมันก็ค่อยๆจางหายไป หายไปเราก็ต้องนิ่งอยู่อย่างนั้นนะ ห้ามขยับตา จนกว่าจะหมดเวลาอะ จนเสร็จขั้นตอน ความรู้สึกนั้น เหมือนเลเซอร์ มันวนรอบดวงตาเรา เหมือนตัดเลนส์ออกมา หมอ ก็จะดึงตัวเราออกมา ให้เรากรอกตาได้แปปนึง สองสามวิ
และให้เรามองแสงสีขาวต่อ ตรงนี้อะยากสุด เพราะแสงสีขาว มันขยับไปมา ตลอด โฟกัสยาก หมอบอกให้หมอจุดขาวจุดแรกที่เริ่มเท่านั้น เราก็พยายามมองจุดเดิมตอนแรกเริ่มนั้นและ เหมือนหมอพยายามเอาอะไร เหมือนเครื่องมือ มาดึงเลนส์ที่ถูกตัดออกไป และก็ลื่นๆ ไหลๆ น้ำตาไหลพรากและรู้สึกเจ็บเลยตอนนั้น
แล้วพอทำเสร็จข้างขวา หมอก็ถามว่าเจ็บไหม เลยบอกหมอว่าเจ็บมาก หมอก็เลยบอกว่าเดี๋ยวหยอดยาชาเพิ่มให้อีกข้างที่เหลือ เป็นอันว่าเสร็จไป หนึ่งข้าง เหลืออีกข้าง ก็ทำขั้นตอนเดียวกัน สำเร็จไปด้วยดีค่ะ
หลังจากเสร็จแล้วพยาบาลก็พยุงเรามานั่งเก้าอี้ หยอดยาฆ่าเชื้ออีกรอบ
และให้นั่งพักแปป หมอตรวจตาอีกรอบ หมอชมว่าเราเก่ง สมาธิดี ให้ความร่วมมือดีมาก 
เราก็บอกหมอไป ไหนบอกจะมีลูกบอลให้บีบ เพลงให้ฟัง ผ่อนคลาย หมอบอกเราเก่งแล้ว ไม่ต้องใช้ 5555
ตรวจเสร็จพยาบาลก็เอาฝาครอป ให้ปิดลูกตาสองข้างก่อนกลับ
ส่วนอาการสายตาเรา ยังพร่าๆ เบลอๆอยู่ หมอบอกจะชัดวันรุ่งขึ้นและจะชัดขึ้นเรื่อยๆจนครบอาทิตย์ และจะชัดมากสุดที่ หกเดือน
เป็นอันว่าเสร็จภารกิจ กลับมาบ้าน น้ำตาก็ไหลๆอยู่ สองถึงสามชั่วโมงก็หาย แต่ก็ยังมองไม่ชัดเท่าไหร่ หมอบอกต้องรอไปซักพักถึงเช้า เอฟเฟคหลังทำมายด์ไม่มีอาการปวดตาใดๆ และไม่เจ็บตาเลยนะ แค่มันจะเบลอๆเฉยๆ
#วันนี้ตื่นเช้ามาด้วยความเคยชินจะหยิบแว่นมาใส่ 55555 สรุปตาชัดใสปิ๊ง แต่อาจะมีเบลอๆอยู่บ้างนิดๆหน่อย
แต่ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่ไม่ต้องมานั่งใส่คอนแทคอีก
ทำอะไรก็สะดวกสบาย กิจกรรมเราค่อนข้างเยอะ และใช้สายตาเยอะอยู่ คนที่คิดจะทำ อย่าลังเล ทำเลย คุ้มมากๆ จะเปลี่ยนชีวิตไปอีกแบบเลย โยนทิ้งเลยตอนนี้น้ำยา คอนแทคเลนส์
ปล. ใครงบประมาณไม่ถึง ก็มีให้เลือกหลายวิธีนะคะ ลองปรึกษาคุณหมอได้
*ส่วนใครที่จะทำเลสิก อย่าลืมให้คนไปรับด้วยตอนกลับทั้งหลังตรวจและหลังทำด้วยนะ #จบการรีวิว
ขอบคุณการดูแลจาก
ศูนย์รักษาตา/ศูนย์เลสิค ท็อปเจริญ Top Charoen Eye Center
