สิ่งที่แตกต่างระหว่าง “คิดบวก” กับ “โลกสวย” คือการมองโลกและความเป็นจริงที่เกิดขึ้น อย่าง “ไม่เพ้อฝัน” เมื่อต้องเจอกับอุปสรรคหรืออะไรร้ายๆ ต้องก้าวผ่านมันให้ได้ โดยไม่จมอยู่กับความคิดลบๆ ที่มีแต่ทำให้ทุกอย่างย่ิงแย่ลง!
คนคิดลบเรื้อรัง จะมองเห็นแต่ “ปัญหา” แม้กับสถานการณ์ที่ปกติ และมัก “เหมาด่า” ความคิดดีๆว่า “โลกสวย” เพราะใจไม่สู้ ไม่ลงมือทำ จึงทำได้แค่ตั้งตนเป็น “นักวิจารณ์” ที่เอาแต่ตำหนิติเตียนคนลงมือทำงานไปวันๆ
ซ้ำยังมีพฤติกรรมประชดชีวิต เพราะมองว่าตัวเอง “เป็นเหยื่อ” ที่น่าสงสาร ก่นด่าโชคชะตาว่าไม่ยุติธรรม เมื่อชีวิตตนแย่แล้วก็ให้มันแย่ต่อไป! “จมปลักกับอดีต” จนชีวิตไม่ก้าวหน้า เพราะไม่พัฒนาตัวเอง
เมื่อเจอปัญหา ต้องหาทางแก้ไข มองหาโอกาสใหม่ๆแบบไม่ยอมแพ้ คือการคิดบวก “ไม่ใช่โลกสวย” อย่างที่ “นักวิจารณ์แย่ๆ” ชอบเอามาเหมารวม
═══════════
สรุปทุกเรื่องราวของโลกธุรกิจ ผ่านมุมมองของ HR
เพื่อผู้บริหารและคนทำงาน เพิ่มไอเดียใหม่ๆ ได้ทุกวัน
═══════════
www.prtr.com
The difference between ′′ Positive Thinking ′′ and ′′ Beautiful World ′′ is the world and the reality that happens as ′′ No Fantasy ′′ when you encounter obstacles or bad things, you have to move through it without drowning in the negative thoughts that only make it happen. Everything is getting worse!
Chronic negative people only see ′′ problems ′′ even with normal situations and ′′ can't translate ′′ Good idea that ′′ beautiful world ′′ because they don't fight, they can only be set as ′′ critic ′′ who is blamed by people who don't care about it. Work day by day
Still having sarcastic behavior because you think you're a poor ′′ victim Scolding your fate for being unfair when your life is bad, then keep it bad! ′′ Drown in the past ′′ so that life doesn't progress because I don't develop
When you encounter a problem, you have to find a solution. Looking for new opportunities without giving up. It's a positive thinking ′′ not a beautiful world ′′ as ′′ bad critics ′′ like to take it to sell.
═══════════
Summarize every story of the business world through HR's perspective.
For executives and workers, add new ideas everyday.
═══════════
www.prtr.comTranslated
