ใครคือผู้ก่อตั้ง TSMC ผู้ผลิตชิป ให้คนครึ่งโลก /โดย ลงทุนแมน
แม้ว่าระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิลและ Android ของกูเกิล จะเรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับตลอดกาล
แต่รู้หรือไม่ว่า ชิปเซต หรือ สมองของสมาร์ตโฟนที่อยู่บนสมาร์ตโฟน เช่น ชิป A-Series ของแอปเปิล หรือชิป Snapdragon หลายรุ่นบน Android กลับถูกผลิตขึ้นโดยบริษัทเดียวกันที่ชื่อว่า Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ TSMC
ซึ่งนอกจากชิปบนสมาร์ตโฟนแล้ว TSMC ยังมีส่วนแบ่งการตลาดชิปเซตทั้งหมดบนโลกมากถึง 55.6% หรือเรียกได้ว่าชิปเกินกว่าครึ่งโลก ถูกผลิตขึ้นจากบริษัทแห่งนี้
ปัจจุบัน TSMC มีมูลค่ามากกว่า 20 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลกและมีมูลค่าเป็นอันดับที่ 2 ในเอเชีย เป็นรองเพียง Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย
แล้ว TSMC มีที่มาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สำหรับผู้ก่อตั้งบริษัท TSMC ก็คือ “Morris Chang”
Morris Chang หรือ มอร์ริส จาง เกิดที่เมือง Ningbo
ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกของประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1931
แม้จางจะเรียกได้ว่าเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง แต่ชีวิตในวัยเด็กของเขากลับไม่ได้สุขสบายมากนัก นั่นก็เพราะว่าเขาต้องเจอกับสงครามถึง 3 ครั้งด้วยกัน ได้แก่
- สงครามกลางเมืองในจีน ช่วงปี ค.ศ. 1927 ถึง 1949
- สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่สอง ช่วงปี ค.ศ. 1937 ถึง 1945
- สงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี ค.ศ. 1939 ถึง 1945
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ครอบครัวของเขาต้องทำการย้ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง
จนในปี ค.ศ. 1948 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามกลางเมืองในจีน กำลังร้อนระอุ
จางในวัย 17 ปี พร้อมกับครอบครัว จึงได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ ฮ่องกง
แม้ในช่วง 17 ปีแรกของชีวิต จางจะได้รับผลกระทบจากสงครามเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากสงคราม ก็คือ เขาต้องขยันและทำงานหนัก โดยสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อของเขาคอยสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ก็คือ “เรื่องการเรียน” ด้วยเหตุนี้ จางจึงสามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Harvard ได้สำเร็จ
หลังจากเข้าเรียนได้เพียง 1 ปี เขาก็ได้ย้ายไปเรียนที่ Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT และเขาก็ได้จบการศึกษาในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท
งานแรกของ มอร์ริส จาง เริ่มต้นขึ้นที่ Sylvania Semiconductor เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้กับบริษัทแม่ Sylvania Electric Products อีกทีหนึ่ง
แต่หลังจากทำงานได้ 3 ปี เขารู้สึกว่าแนวทางของบริษัทในอนาคต ไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด
แนวทางของบริษัทคือ การผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าหลาย ๆ ชนิด
ซึ่งต่างจากเป้าหมายของจางที่ต้องการโฟกัสไปที่ การพัฒนาตัวเซมิคอนดักเตอร์เป็นหลัก
เรื่องดังกล่าว จึงทำให้จางตัดสินใจออกจากบริษัท Sylvania Semiconductor เพื่อมาเริ่มงานใหม่ที่ Texas Instruments ในปี ค.ศ. 1958 และด้วยความสามารถของเขาทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมของบริษัท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
หลังจากนั้น เขาได้ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนได้รับตำแหน่ง รองประธานในการดูแลฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมด แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงปี ค.ศ. 1980
บริษัท Texas Instruments ต้องการที่จะขยายธุรกิจเข้าไปสู่ลูกค้ารายย่อยมากขึ้น
โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่น TI-99/4
ซึ่งเดิมทีโมเดลธุรกิจหลักของ Texas Instruments คือเป็นซัปพลายเออร์ให้กับบริษัทอื่น
ไม่ได้ทำการค้าขายกับลูกค้ารายย่อยโดยตรง ซึ่งทางบริษัทก็ได้มอบหมายหน้าที่การขายสู่ลูกค้ารายย่อยให้กับจาง
หลังจากใช้เวลาไป 2 ปีครึ่ง ผลงานภายใต้การบริหารของจางกลับไม่ได้เป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังเนื่องจากในช่วงนั้นมีผลิตภัณฑ์จากคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ Apple 2 ในยุคของ สตีฟ จอบส์
แม้ตำแหน่งในบริษัทของเขายังคงเป็นรองประธานก็ตาม
แต่จากผลงานที่ค่อนข้างแย่ เขาจึงถูกทางบริษัทลดตำแหน่งลง
เหตุการณ์นี้เอง ก็ได้สร้างความผิดหวังให้กับจางเป็นอย่างมาก
เพราะที่ผ่านมา เขาได้สร้างผลงานมากมายให้บริษัทเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี
ในปี ค.ศ. 1983 จางในวัย 52 ปี จึงตัดสินใจลาออกจาก Texas Instruments
ซึ่งทันทีหลังจากที่เขาลาออก ก็ได้มีหลายบริษัทติดต่อเขาให้เข้าไปทำงานมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ General Instrument Corporation หรือ GIC
บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเชี่ยวชาญในด้านเซมิคอนดักเตอร์และเคเบิลทีวี
ซึ่งเขาได้เลือกทำงานในบริษัทนี้ ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ
ด้วยเหตุผลที่ว่า GIC ก็ถือเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ แม้จะไม่เท่า Texas Instruments
แต่ก็ตรงกับเป้าหมายของเขา ที่อยากเป็น CEO ของบริษัทระดับโลก
แต่หลังจากเข้าทำงานที่ GIC ได้ไม่ถึง 1 ปี เขาพบว่า
GIC เป็นบริษัทที่มีแนวทางการเติบโต จากการควบรวมกิจการอื่น ๆ
ต่างจากแนวทางการเติบโตแบบ Organic Growth ที่เขาตั้งใจไว้
ทำให้ระยะเวลาไม่นาน จางจึงได้ตัดสินใจลาออกอีกครั้ง
และแล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ. 1985
ในช่วงนั้น รัฐบาลไต้หวันต้องการเสริมสร้างความสามารถในการผลิตสินค้าของประเทศ
ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะสินค้าไอที
และหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ถูกผลักดัน ก็คือ “อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์”
สิ่งที่รัฐบาลไต้หวันทำในตอนนั้นคือ
มีการจัดสรรเงินทุนเพื่อก่อตั้ง “สถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”
หรือ Industrial Technology Research Institute (ITRI)
สิ่งที่ยังขาดไปสำหรับ ITRI ของไต้หวัน คือ “ผู้นำ” ที่จะพาให้โครงการนี้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง
และด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของจาง เขาจึงได้รับข้อเสนอจากทางรัฐบาลไต้หวัน ให้เข้ารับตำแหน่งประธานของ ITRI ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการความสามารถของเขาในการพัฒนาและสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ
หลังจากที่เขาตกลงรับข้อเสนอในครั้งนี้ ทางรัฐบาลไต้หวันได้ให้โจทย์กับเขาว่า
ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ผ่านการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา
จางจึงได้เริ่มวิเคราะห์ โมเดลธุรกิจที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ
ซึ่งเขาพบว่าไต้หวันในตอนนั้นมีจุดอ่อนเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยและพัฒนา
การออกแบบ และการตลาด ไต้หวันไม่มีความสามารถมากพอ
ที่จะสู้กับทาง Intel หรือ Texas Instruments ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่ได้เลย
จุดแข็งเดียวที่พอมี คือ “การผลิต” และจากการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง
ทำให้คำตอบของโจทย์นี้ออกมาเป็น “จัดตั้งบริษัทรับจ้างผลิตให้กับบริษัทอื่น”
แม้ความคิดนี้จะโดนคัดค้านในตอนแรก เนื่องจากในตอนนั้นยังไม่มีบริษัทที่มีโมเดลแบบ Fabless หรือ ไม่มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง เช่น Apple หรือ Nvidia ในปัจจุบัน จึงทำให้ไม่มีตลาดรองรับ
แต่จากประสบการณ์ทำงานในวงการมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี เขาสังเกตเห็นว่า
ทุก ๆ ปี จะมีพนักงานหลายคนของ Texas Instruments หรือ Intel ที่มีความคิด อยากออกมาสร้างธุรกิจเกี่ยวกับ ชิปเซตเป็นของตัวเอง
แต่ทุกครั้งความคิดนี้ต้องล้มเลิกไป เพราะการที่จะสามารถดำเนินธุรกิจ ชิปเซต ได้นั้น จำเป็นต้องมีโรงงานการผลิตเป็นของตัวเอง
ทำให้ยุคนั้นยังไม่มีบริษัทไหนที่ทำโมเดลธุรกิจรับจ้างผลิตเลย เพราะการสร้างโรงงานจำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล ซึ่งต้นทุนในการสร้างโรงงานใหม่ถ้าคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่หลักแสนล้านบาทเลยทีเดียว
ในปี ค.ศ. 1987 Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ TSMC จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา
ซึ่งมีโมเดลการดำเนินธุรกิจ รับจ้างผลิตชิปเซตให้กับบริษัทอื่นโดยไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งนับเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีโมเดลแบบนี้เกิดขึ้น
โดยในช่วง 3 ปีแรก บริษัทมีลูกค้าเพียงไม่กี่ราย ส่วนใหญ่มาจากภายในประเทศ
แต่หลังจากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1991 เป็นต้นมา สิ่งที่จางคิดไว้ในตอนแรกก็เริ่มเป็นจริง
เพราะเริ่มมีบริษัทที่ต้องการชิปเซตเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากแต่ไม่มีทุนสร้างโรงงานผลิต
บริษัทเหล่านี้จึงได้กลายมาเป็นลูกค้าของ TSMC และได้ทำให้บริษัทเติบโตขึ้น
เหตุผลที่ทำให้หลายบริษัทเข้ามาเป็นลูกค้าของ TSMC เพราะบริษัทมีเทคโนโลยีในการผลิตที่มีความซับซ้อนสูง สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายการลงทุนในเรื่องการวิจัยและพัฒนา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ในปี ค.ศ. 2020 TSMC มีมูลค่าในการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 8.5% เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งบริษัท ซึ่งมากกว่า Apple หนึ่งในเจ้าแห่งนวัตกรรมที่มีสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 6.8% เสียอีก
โดย TSMC มีลูกค้ารายใหญ่คือ Apple, Nvidia และ Qualcomm และมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ มากถึง 55.6% เลยทีเดียว
ปัจจุบัน TSMC มีมูลค่าบริษัท สูงถึง 20 ล้านล้านบาท มากกว่า Intel ที่มีมูลค่า 7 ล้านล้านบาท และ AMD ที่มีมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมดทั่วโลกอีกด้วย
จากเรื่องทั้งหมดนี้จึงทำให้ตัวเจ้าของบริษัทอย่าง มอร์ริส จาง มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 93,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 15 ของไต้หวัน
ถ้าถามว่าแนวคิดอะไร ที่ทำให้จางประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้
เราน่าจะสรุปได้เป็น 2 ข้อ
1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่า มอร์ริส จาง เป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจนมาก
หากเขารู้สึกว่างานที่เขาทำอยู่ไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่เขาต้องการ
เขาก็พร้อมออกมาเพื่อตามหาสิ่งที่ตรงกับเป้าหมายของเขาเสมอ อย่างเช่น ตอนที่เขาออกจาก Sylvania Semiconductor และ GIC เพราะเขาต้องการงานที่โฟกัสไปที่การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์เป็นหลัก
2. ความไม่ยอมแพ้
แม้หลายคนจะไม่เห็นด้วยกับการก่อตั้ง TSMC ให้เป็นบริษัทรับจ้างผลิตชิป แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และเชื่อมั่นในแนวคิดของตนเอง ก่อนที่จะก่อตั้งบริษัทจนสำเร็จ
จากการมีเป้าหมายที่ชัดเจนบวกกับการไม่ยอมแพ้ของจาง จึงไม่แปลกใจเลยที่ในวันนี้เขาสามารถพา TSMC ให้ประสบความสำเร็จจนมีมูลค่าบริษัท 20 ล้านล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/TSMC
-https://en.wikipedia.org/wiki/Morris_Chang
-https://www.longtunman.com/27349
-https://www.longtunman.com/27702
-https://sahilbloom.substack.com/p/the-amazing-story-of-morris-chang
-https://www.yourtechstory.com/2018/08/16/morris-chang-chip-industry-tsmc/
-https://www.semi.org/en/Oral-History-Interview-Morris-Chang
-https://www.forbes.com/profile/morris-chang/?sh=7eb878d45fc4
-https://en.wikipedia.org/wiki/Sylvania_Electric_Products
-https://www.investopedia.com/articles/markets/012716/how-taiwan-semiconductor-manufacturing-makes-money-tsm.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Semiconductor_fabrication_plant
-https://en.wikipedia.org/wiki/Texas_Instruments
-https://www.counterpointresearch.com/global-smartphone-share/
同時也有92部Youtube影片,追蹤數超過9萬的網紅Christina靠右邊走,也在其Youtube影片中提到,Martha's Vineyard: https://en.wikipedia.org/wiki/Martha%27s_Vineyard FAQ: Q: How old are you? A: 24 Q: Where are you from? A: Half American Half T...
「taiwan wiki」的推薦目錄:
- 關於taiwan wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於taiwan wiki 在 公民不下課 Facebook 的最佳貼文
- 關於taiwan wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於taiwan wiki 在 Christina靠右邊走 Youtube 的最佳解答
- 關於taiwan wiki 在 百靈果News Youtube 的精選貼文
- 關於taiwan wiki 在 單車小D揪愛騎 Youtube 的最佳貼文
- 關於taiwan wiki 在 臺灣維基社群Taiwan Wikimedia Community | Facebook 的評價
- 關於taiwan wiki 在 【每日必看】"塔綠班"三字登上維基百科! 釋義 - YouTube 的評價
taiwan wiki 在 公民不下課 Facebook 的最佳貼文
【大甲西社事件:台灣歷史上的種族滅絕】
.
談到種族歧視、種族滅絕的時候,我們常常想到的都是西方的案例,像是如二戰期間納粹德國對猶太人的屠殺(Holocaust)、盧安達大屠殺(1994)。
.
事實上,台灣歷史上也有這樣的血腥過去,清代漢人就曾對台灣原住民族群做過有計畫的屠殺與種族滅絕,帶你一起來了解。
.
#socialclassonline #原住民 #種族滅絕 #大甲西社事件 #台灣 #清代 #漢人 #種族歧視 #納粹 #盧安達 #屠殺 #Taiwan #學測 #指考 #讀書 #升學 #時事 #社會議題 #社會科 #考題
.
➤ 參考資料:
・https://www.civilmedia.tw/archives/33856
・https://zh.wikipedia.org/wiki/大甲西社抗清事件
・https://tcnn.org.tw/archives/15912
・http://saturn.ihp.sinica.edu.tw/~wenwu/taiwan/index.htm
taiwan wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รู้จัก Cree ผู้ปฏิวัติหลอดไฟ LED แต่ตอนนี้จะเลิกทำ LED /โดย ลงทุนแมน
ปี 1989 หรือเมื่อ 32 ปีที่แล้ว บริษัทอเมริกันรายหนึ่ง
ได้ทำการเปิดตัวเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน
ที่ทำให้หลอดไฟ LED ส่องสว่างมากขึ้นและใช้พลังงานน้อยลงมาก
นอกจากนั้น Blue-LED ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เทคโนโลยี LED ถูกต่อยอดมาเป็นหน้าจอแสดงผลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เราใช้กันในทุกวันนี้
บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ว่านี้ มีชื่อว่า “Cree”
แต่รู้ไหมว่า วันนี้ Cree กำลังเลิกทำธุรกิจที่เกี่ยวกับจอแสดงผล
เพื่อไปโฟกัสกับ ธุรกิจที่พวกเขามองว่ามีอนาคตกว่าอย่างเต็มที่
Cree กำลังเลิกทำสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในอดีต เพื่อไปโฟกัสกับธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Cree ก่อตั้งในปี 1987 ในเมืองเดอแรม รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
โดยทำธุรกิจวิจัยคิดค้น ผลิตชิปไฟ LED และชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ
ซึ่งเรื่องราวที่ทำให้ Cree มีชื่อเสียงขึ้นมา
ก็คือการเปิดตัว เทคโนโลยี Blue-LED หรือหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน สำหรับการผลิตเพื่อค้าขายเชิงพาณิชย์ได้เป็นบริษัทแรกของโลก ในปี 1989
แล้วการผลิตหลอดเปล่งแสงสีน้ำเงินได้ มันปฏิวัติวงการไฟส่องสว่างอย่างไร ?
อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ
หลอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน เมื่อนำไปส่องแสงร่วมกันกับหลอดเปล่งแสงอีก 2 สี คือ สีแดงและสีเขียว จะทำให้เกิดแสงสีขาวที่สว่างมาก และการเปล่งแสงของหลอดทั้ง 3 สีนี้ ยังก่อให้เกิดสีสันอื่นที่สวยงามเมื่อเปล่งแสงร่วมกัน และได้ถูกนำมาต่อยอดเป็นเทคโนโลยีจอแสดงผล LED ในวันนี้นั่นเอง
หลังจากนั้นมา Cree ก็กลายเป็นซัปพลายเออร์คนสำคัญของโลก ในอุตสาหกรรมจอแสดงผล
ทั้งจอโทรทัศน์, จอมือถือ และจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อาศัยเทคโนโลยี LED
นอกจากนั้นแล้ว ส่วนธุรกิจผลิตชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุของ Cree ก็เติบโตขึ้น ตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
Cree จึงสามารถเติบโตและจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ได้สำเร็จ ตั้งแต่ปี 1993
ทีนี้ ถ้าลองมาเจาะดูผลิตภัณฑ์ของ Cree
ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทั้งชิปสำหรับหลอด LED และชิปสำหรับรับส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ ล้วนมีวัสดุตั้งต้นที่ชื่อว่า ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
คำถามคือ ซิลิคอนคาร์ไบด์ และ แกลเลียมไนไตรด์ มันคืออะไร ?
เพื่อให้เห็นภาพตรงนี้ชัด เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ผลิตชิปในปัจจุบันกันสักเล็กน้อย ว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
1. ซิลิคอน (Si)
ซึ่งนิยมนำมาใช้ทำชิปประมวลผลต่าง ๆ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
2. แกลเลียมอาร์เซไนด์ (GaAs)
ปัจจุบันใช้เป็นวัสดุของชิปควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุและชิปเปล่งแสงไฟ LED
ซึ่งวัสดุประเภทนี้ สามารถทนความร้อนได้ดีกว่า และมีประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณได้ดีกว่า ชิปที่ผลิตจากซิลิคอน
3. ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และ แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
ชิปที่ผลิตจากวัสดุสองตัวนี้จะมีความสามารถที่ทนความร้อน รับส่งสัญญาณ และรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ดีกว่าชิปที่ผลิตจากวัสดุ 2 ข้อแรกข้างต้น
ประเด็นสำคัญก็คือ หลาย ๆ ธุรกิจที่ถูกมองว่าเป็นธุรกิจแห่งอนาคตในวันนี้ กำลังมีความต้องการชิป ที่ผลิตจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ด้วยคุณสมบัติรองรับแรงดันไฟฟ้าและความร้อนได้มาก
ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ จึงได้ถูกนำไปใช้ในเครื่องแปลงกระแสจากแผงโซลาร์เซลล์ และเป็นวัสดุตั้งต้นของชิปควบคุมการทำงานแท่นชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ชิปควบคุมระบบจ่ายไฟของรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Model 3 ของ Tesla ก็เลือกใช้ชิปที่ทำจากซิลิคอนคาร์ไบด์ของบริษัท Cree
ซิลิคอนคาร์ไบด์ ยังถูกนำไปใช้ในเครื่องส่งสัญญาณคลื่น 5G อีกด้วย
ส่วน แกลเลียมไนไตรด์ ก็ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตชิปสำหรับเครื่องชาร์จไฟความเร็วสูง ที่กำลังเติบโตตามเมกะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์
ยังเป็นวัสดุที่สำคัญในการผลิตชิปควบคุมการรับส่งสัญญาณในระบบ LiDAR หรือก็คือ เทคโนโลยีที่ประยุกต์ใช้แสงเลเซอร์ในการวัดระยะทางของวัตถุโดยรอบ และสะท้อนกลับมาเพื่อประมวลผลเป็นแผนที่สามมิติได้
ซึ่ง LiDAR ก็ถูกคาดการณ์ว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยการใช้งานระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ในปี 2018 ผู้บริหาร Cree ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการในส่วนของการผลิตชิปสำหรับควบคุมการส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ จาก Infineon Technologies บริษัทผลิตชิปสำหรับยานยนต์รายสำคัญของโลก
ขณะที่ธุรกิจผลิตชิปไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทในอดีตนั้น ในวันนี้กลับกำลังสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้น้อยลงเรื่อย ๆ
จนบริษัทเริ่มทยอยปิดกิจการในส่วนของการผลิตชิปไฟ LED
และขายธุรกิจชิปไฟ LED บางส่วน ให้กับทางบริษัทอื่น ในปี 2020
และล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา
Cree ก็ได้ประกาศรีแบรนด์ Cree ให้กลายเป็นชื่อ “Wolfspeed”
ซึ่ง Wolfspeed ก็คือชื่อเรียกส่วนธุรกิจผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์ใน Cree ก่อนหน้านี้
ซึ่งก็เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า บริษัทจะมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำในด้านการผลิตชิปจากซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ อย่างเต็มตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังคิดค้นวัสดุที่ชื่อ GaN-on-SiC เป็นส่วนผสมของทั้งสองวัสดุตั้งต้น ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของคุณสมบัติที่ทนความร้อนขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
ซึ่งก็คาดว่าวัสดุชนิดนี้ จะยังนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตได้อีกมาก
ปัจจุบัน Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาด SiC ซิลิคอนคาร์ไบด์ทั่วโลกกว่า 60%
แล้วผลประกอบการของ Cree หรือ Wolfspeed ในตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2018 รายได้ 28,644 ล้านบาท ขาดทุน 8,680 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 33,480 ล้านบาท ขาดทุน 11,625 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 27,993 ล้านบาท ขาดทุน 5,952 ล้านบาท
ผลประกอบการในช่วงหลายปีหลังยังคงขาดทุน
แต่ด้วยปัจจัยบวกหลายอย่าง ทั้งการปรับตัวออกจากอุตสาหกรรมผลิตชิปไฟ LED ที่มีการแข่งขันสูงและตัวสินค้าเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และการมุ่งสู่การผลิตชิปเพื่ออุตสาหกรรมที่ดูมีอนาคต
บวกกับ ข้อมูลคาดการณ์ว่าความต้องการของตลาดชิปที่ผลิตจาก ซิลิคอนคาร์ไบด์และแกลเลียมไนไตรด์ ที่ Cree นั้นมีความเชี่ยวชาญในการผลิต
ทำให้มูลค่าของบริษัท Cree, Inc. ในตอนนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 360,000 ล้านบาท
ซึ่งคิดเป็นเกือบ 2 เท่า ของมูลค่าบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
เรื่องราวการปรับตัวของ Cree หรือที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า Wolfspeed ในวันนี้
ก็เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า การปรับตัวในการทำธุรกิจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่เคยรุ่งเรือง เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเรา มันอาจไม่รุ่งเรืองเหมือนในอดีตได้ตลอดไป
และเมื่อถึงเวลาที่สิ่งนั้น หรือธุรกิจนั้น ถึงจุดอิ่มตัว
เราก็อาจจะต้องยอมตัดใจปล่อยสิ่งนั้นทิ้งไป เหมือนที่ Cree ตัดสินใจปล่อยมือจากธุรกิจผลิตชิปหลอดไฟ LED ที่เคยสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้บริษัทในอดีต
เพื่อจะได้มาโฟกัสเต็มที่ กับสิ่งที่ทำแล้วจะสามารถเติบโตได้ดี ในอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://th.regionkosice.com/wiki/Cree_Inc.
-https://www.hermes.com.tw/en/third-generation-semiconductor-material/
-https://finance.yahoo.com/quote/CREE?p=CREE
-https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%8C
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=f34bcd8d-d823-4bc3-83c2-9d7f56d8e011
-https://kknews.cc/news/e5g3zbr.html
-https://finance.technews.tw/2021/03/27/third-generation-semiconductor-material-business-in-taiwan/
-https://www.moneydj.com/kmdj/news/newsviewer.aspx?a=%7Bf9efd171-279d-4e35-8e23-fcb167db4832%7D
-https://news.sina.com.tw/article/20210111/37360360.html
taiwan wiki 在 Christina靠右邊走 Youtube 的最佳解答
Martha's Vineyard:
https://en.wikipedia.org/wiki/Martha%27s_Vineyard
FAQ:
Q: How old are you? A: 24
Q: Where are you from? A: Half American Half Taiwanese (currently in USA)
Q: My major? A: Graduated with BA in Film
問:你幾歲?答:二十四,準備幹大事
問:你來自哪裡?答:台灣美國混血寶寶
問:你畢業的系?答:電影學士學位
taiwan wiki 在 百靈果News Youtube 的精選貼文
維基百科史無前例對7名中國涉及「滲透剝削」的超級用戶開鍘
蛇編教我們新竹小歷史
BBC 影片 https://youtu.be/s3IyqirKzNA
Wiki事件文字版整理 https://www.facebook.com/799505166786084/posts/5974719175931298/
=======================
/追蹤 IG 看教主ㄎㄧㄤ日常:https://instagram.com/bailingguo_news
/到 FB 看每日新聞觀點:https://www.facebook.com/puppydailynews
/想要支持我們,看幕後花絮、NG片段,請加入Youtube 會員:
https://www.youtube.com/channel/UCD2KoUc0f4Bv2Bz0mbOah8g/join
【每週二、四、日晚上 9 點更新】
歡迎來到百靈果News
這裏是華語界最自由的雙語國際新聞
Welcome to Bailingguo News
The FREEst International News Podcast in the Chinese Speaking World
我們把高音質的檔案放在其他網路平台,歡迎大家訂閱
【百靈果News的Podcast】
Apple:https://reurl.cc/N6V976
Spotify:https://reurl.cc/14yqRX
Google:https://reurl.cc/Y6ypxD
KKBOX:https://reurl.cc/k0D29x
#TaiwanPodcast #PodcastStudio
taiwan wiki 在 單車小D揪愛騎 Youtube 的最佳貼文
#屏東枋寮
#屏東吃喝玩樂一網打盡
#屏東枋寮
#屏東吃喝玩樂一網打盡
.
4/17是小D在三級警戒前最後一場主持及領騎活動☺️有點懷念運動不用戴口罩的大家!
.
這場活動因為有大家所以即便小D是工作也非常有趣❤️謝謝當天參加的大家!
.
來Bike(吧!) 去屏東走走🌻70K騎7小時到底怎麼辦到的🤣就讓影片告訴你吧!
---------------------------------------------
影片部分-素材來源:
LAVA台灣鐵人公司
墾丁快線-素材來源:
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Ping_Tung_Bus_593-V2_20190309.jpg
--------------------------------
FB粉絲團: 單車小D揪愛騎
https://www.facebook.com/bike.little.D
IG: bike.dd
https://www.instagram.com/bike.dd/
taiwan wiki 在 臺灣維基社群Taiwan Wikimedia Community | Facebook 的推薦與評價
臺灣維基社群Taiwan Wikimedia Community · Announcement · Justo Shao-dian Jhang edited a doc. · New activity · Reke Wang shared a post. · Pei-Cheng Huang shared a link ... ... <看更多>