เป็นยุคสมัยที่ "เด็กไทย" น่าสงสารที่สุด ตั้งแต่ที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ ทั้งขาดการศึกษา ขาดเพื่อน ขาดการได้รับการดูแลที่ดีจากโรงเรียน
ลามไปจนถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่จำนวนมากไม่ได้มีศักยภาพจะมาทำ "โฮมสคูล" แบบที่กระทรวงศึกษาธิการฝันจะเห็นได้
กระทรวง สธ. ควรจะเลิกผลักภาระ ให้ผู้ปกครองกลายเป็นครูแทน .. แล้วเริ่มวางมาตรการและแนวทาง ในการที่จะให้เด็กสามารถไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน อย่างปลอดภัย ได้แล้วครับ
เราต้องอยู่กับโรคโควิด-19 นี้ไปอีกนานหลายปี จะเก็บเด็กไทยไว้ในบ้านตลอดไป ก็จะกลายเป็น "generation of lost" ได้ครับ
-------
(รายงานข่าว)
รายงานวิเคราะห์ล่าสุดของยูนิเซฟระบุว่า วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้เด็ก ๆ กว่า 140 ล้านคนทั่วโลกต้องเลื่อนการไปโรงเรียนวันแรกออกไป ซึ่งถือวันที่สำคัญวันหนึ่งในชีวิตของเด็กตัวน้อยและพ่อแม่ ในจำนวนนี้ เด็กประมาณ 8 ล้านคนได้ตั้งตาคอยการเปิดเรียนมากว่าหนึ่งปีแล้ว และยังต้องรอต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากโรงเรียนปิดเรียนต่อเนื่องตลอดช่วงการแพร่ระบาด
ในประเทศไทย เด็กเล็กหลายแสนคนกำลังพลาดโอกาสในการไปโรงเรียนตั้งแต่เริ่มปีการศึกษาแรกของพวกเขา ในขณะที่เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษาอีกหลายล้านคนก็ไม่ได้ไปโรงเรียนเนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งยังคงปิดเรียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
นางเฮนเรียตตา โฟร์ ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การยูนิเซฟ กล่าวว่า “วันแรกของการไปโรงเรียนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับเด็กทุกคน เพราะมันคือจุดเริ่มต้นที่พาพวกเขาก้าวเข้าสู่โลกของการเรียนรู้และการเติบโต พวกเราหลายคนอาจยังจดจำรายละเอียดของการไปโรงเรียนวันแรกได้ดี ไม่ว่าจะเป็นชุดที่เราใส่ไปโรงเรียน ชื่อคุณครู เพื่อนคนที่นั่งติดกัน แต่สำหรับเด็กนับล้านคนในเวลานี้ การไปโรงเรียนวันแรกของพวกเขากลับถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด” “โรงเรียนในหลายประเทศกำลังเริ่มกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งและเด็กประถม 1 หลายล้านคนต่างเฝ้าคอยที่จะเข้าไปนั่งในห้องเรียนวันแรก แต่ขณะเดียวกัน ยังมีเด็กอีกหลายล้านคนที่อาจจะไม่ได้ไปโรงเรียนเลยตลอดภาคการศึกษานี้ และสำหรับเด็กกลุ่มเปราะบาง ความเสี่ยงที่พวกเขาจะไม่ได้เข้าเรียนอีกเลยยิ่งมีมากเป็นทวีคูณ”
การเข้าเรียนปีแรกของชั้นประถมศึกษา คือ การวางรากฐานสำหรับการเรียนรู้ในอนาคต ประกอบด้วยการเริ่มหัดอ่าน เขียน และคำนวณ การเรียนในชั้นเรียนยังช่วยให้เด็กได้ฝึกฝนการเป็นตัวของตัวเอง ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ และสร้างความสัมพันธ์กับคุณครูและเพื่อน ๆ นอกจากนี้ การเรียนในห้องเรียนยังช่วยให้ครูสังเกตเห็นว่า เด็กคนใดมีการเรียนรู้ช้า หรือมีปัญหาทางจิตใจ หรือถูกทำร้ายซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาวะของเด็กอย่างมหาศาล
ในพ.ศ. 2563 โรงเรียนทั่วโลกได้หยุดสอนเฉลี่ยเป็นเวลา 79 วัน แต่สำหรับเด็กนักเรียน 168 ล้านคน โรงเรียนของพวกเขาปิดเกือบตลอดทั้งปีนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด และจนถึงปัจจุบันการเรียนของเด็กอีกจำนวนมากต้องหยุดชะงักลงเป็นปีที่สองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการศึกษา การปิดเรียนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเด็ก ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการการเรียนรู้ที่หยุดชะงัก ความเครียด ตลอดจนการหลุดออกจากระบบการศึกษา การถูกใช้แรงงาน หรือการแต่งงานในวัยเยาว์
การสำรวจเด็กและเยาวชนทั่วประเทศไทยโดยยูนิเซฟในพ.ศ. 2563 พบว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กและเยาวชนมากกว่า 7 ใน 10 คน มีความเครียด วิตกกังวลและเบื่อหน่าย และมาตรการปิดโรงเรียนทำให้เด็กและเยาวชนเกินครึ่งรู้สึกกังวลด้านการเรียน การสอบ โอกาสในการศึกษาต่อ และการจ้างงานในอนาคต
ในขณะที่หลายประเทศกำลังใช้การเรียนการสอนแบบออนไลน์ แต่นักเรียนชั้นประถมศึกษาอย่างน้อยร้อยละ 29 ทั่วโลกกลับเข้าไม่ถึงการเรียนออนไลน์ เนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์ เทคโนโลยี ตลอดจนเครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ ผนวกกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเรียน ความกดดันจากการต้องช่วยงานบ้าน หรือแม้แต่การต้องถูกบังคับใช้แรงงาน
การสำรวจ “ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติในพ.ศ. 2563 พบว่า ครอบครัวเกือบครึ่งหนึ่งในประเทศไทยไม่พร้อมที่จะให้ลูกเรียนออนไลน์ และร้อยละ 51 ไม่มีคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค หรือ แท็บเบล็ตที่บ้าน และอีกร้อยละ 26 ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ต้องใช้สำหรับเรียนออนไลน์ ในขณะที่อีกร้อยละ 40 บอกว่าไม่มีเวลาคอยช่วยลูกให้เรียนออนไลน์ได้
การศึกษาหลายฉบับพบว่า ประสบการณ์เชิงบวกในโรงเรียนของช่วงเปลี่ยนผ่านในวัยเด็กจะเป็นตัวบ่งชี้อนาคตด้านสังคม อารมณ์ และการศึกษาของเด็กแต่ละคน และในขณะเดียวกัน เด็กที่ขาดการเรียนรู้และพัฒนาในช่วงปีแรกมักจะรั้งท้ายตลอดช่วงการศึกษา และช่องว่างการเรียนรู้ระหว่างเด็กสองกลุ่มก็จะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ระดับการศึกษาของเด็กต่างก็มีผลต่อรายได้ในอนาคตของพวกเขาอีกเช่นกัน
ยูนิเซฟเรียกร้องให้รัฐบาลแต่ละประเทศเร่งเปิดโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้กลับไปเรียนโดยเร็วที่สุด พร้อมเตรียมแผนฟื้นฟูการเรียนรู้ของเด็ก ยูนิเซฟร่วมกับธนาคารโลก และยูเนสโกขอเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูการเรียนการสอนในโรงเรียน ดังต่อไปนี้
จัดทำโครงการที่จะนำเด็กและวัยรุ่นทุกคนกลับสู่ระบบการเรียนในโรงเรียน ซึ่งควรให้บริการการเรียนรู้ ด้านสุขภาพกายและจิต และความต้องการด้านอื่น ๆ ตรงความต้องการของเด็กรายบุคคล จัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยทดแทนการเรียนรู้ที่ขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมา สนับสนุนครูในการแก้ปัญหาการเรียนรู้ที่ขาดหายไป พร้อมกับนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของการสอน
“วันแรกของการไปโรงเรียน คือ วันแห่งความหวังและความเป็นไปได้ มันคือจุดแห่งการเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนจะมีโอกาสเริ่มต้นที่ดีในแบบเดียวกัน เด็กบางคนยังไม่มีโอกาสได้เริ่มต้นเสียด้วยซ้ำไป” นางโฟร์กล่าว “เราต้องกลับมาเปิดโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้นั่งเรียนในชั้นเรียนโดยเร็วที่สุด และเราต้องแก้ปัญหาช่องว่างทางการเรียนรู้ที่เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดครั้งนี้ หากเราไม่ลงมือแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน เด็กจำนวนมากจะไม่มีวันตามทัน”
องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการกลับมาเปิดโรงเรียนอีกครั้งอย่างปลอดภัย และยินดีที่ได้เห็นมาตรการต่าง ๆ ของกระทรวงฯ ในการลดผลกระทบทางการศึกษาที่เด็ก ๆ และผู้ปกครองกำลังเผชิญ เช่น การเร่งฉีดวัคซีนให้กับครู การให้เงินเยียวยาแก่เด็กนักเรียนทั่วประเทศ และการสนับสนุนค่าอินเทอร์เนตสำหรับการเรียนออนไลน์
同時也有91部Youtube影片,追蹤數超過26萬的網紅Beam Sensei,也在其Youtube影片中提到,พาอิซากะไปเที่ยวโรงเรียนอนุบาลมาจ้า เล่นเป็นเด็กๆไปเลย เหมือนได้เพื่อนใหม่ 555 โรงเรียนอนุบาล Mark For Future อนุบาล 2 ภาษา ที่เน้นความสามารถทางด้านด...
เด็กไทย 在 YooYeesChannel Facebook 的最佳貼文
จากโพสที่แล้วที่เขียนเกี่ยวกับ #ย้ายประเทศกันเถอะ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนในการไปเรียนต่อปริญญาโทประเทศเยอรมัน หลายคนก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋ากันแล้ว แต่ช้าก่อนน อะไรมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนนนน 🇩🇪🇩🇪🇩🇪🇩🇪🇩🇪🇩🇪🇩🇪 #สายวิศวะ
วันนี้จะขอมาเขียนรายละเอียดคร่าวๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การมาเรียนภาษาเยอรมันที่ประเทศเยอรมันเพื่อเรียนต่อปริญญาโท และค่าใช้จ่ายคร่าวๆนะคะ (ฉบับโลกไม่สวย 55)
การไปเรียนต่อประเทศเยอรมัน(โดยใช้ทุนตัวเองนั้น) ถ้าพูดจริงๆแบบไม่โลกสวย บอกเลยว่าขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะมีตัวเลือกในการเรียนเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ หรือภาษาเยอรมันก็ได้ แต่ถ้าพูดความจริงคือหลักสูตรที่เราอยากเรียนในเมืองที่เราอยากไปบางทีมันสอนแต่เป็นภาษาเยอรมัน เพราะฉะนั้นมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเรียนภาษาก่อน ซึ่งถึงประเทศเยอรมันจะไม่มีค่าเทอมในมหาวิทยาลัย แต่ค่าเรียนภาษาเยอรมันเราต้องจ่ายเอง และก็ไม่ได้ถูกขนาดนั้น แล้วใครจะเสียเยอะหรือเสียน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องเรียนกี่คอร์สถึงจะสอบผ่าน ถ้าขยัน ตั้งใจเรียน สอบผ่านภาษาเยอรมันเร็วก็เสียน้อยหน่อย ถ้าผ่านช้าก็เสียเยอะหน่อย
ถ้าเราต้องการจะเรียนต่อปริญญาโทที่เยอรมัน (ปริญญาตรีจะแตกต่างหน่อย ยู่ยี่ไม่มีความรู้ละเอียดเรื่องนี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ) โดยเรียนเป็นหลักสูตรภาษาเยอรมัน จะต้องสอบภาษาเยอรมันผ่านก่อน ซึ่งสายศิลป์คือพวกสายกฏหมาย ศิลปะ และสายวิทยาศาสตร์ วิศวะ ก็จะกำหนดคะแนนระดับภาษาต่างกันไป และแต่ละมหาวิทยาลัยก็แตกต่างกันไปอีก ซึ่งเราอยากไปเรียนที่ไหนก็ต้องเปิดดูว่าเขาต้องการคะแนนเท่าไหร่ ซึ่ง 2 การสอบภาษาเยอรมันหลักๆ ที่เด็กต่างชาตินิยมสอบคือ TestDaf และ DSH ซึ่งถ้าเทียบง่ายๆก็คือ IELTS ฉบับภาษาเยอรมันนี่แหละ สอบ ฟัง พูด อ่าน เขียน เหมือนกัน ค่าสอบโหดเหี้ยมอำมหิตเหมือนกัน
ซึ่งความยากของการเรียนภาษาเยอรมันนี่ไม่ใช่อะไรเลยนะ แต่คือเวลาที่จำกัดนั่นเอง เพราะเราเรียนภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่เบบี๊ เพราะฉะนั้นถ้าจะเตรียมสอบ IELTS เราก็ไม่ได้ต้องเริ่มจาก 0 ขนาดนั้น แต่ภาษาเยอรมันนั้น เด็กต่างชาติส่วนมากคือต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ 0 จนถึงให้มีความรู้ถึงขนาดฟังเลคเชอร์ในมหาวิทยาลัยรู้เรื่องในเวลาอันสั้นมาก คือ 1-2 ปีเท่านั้น คิดดูว่าความกดดันและความพยายามต้องสูงขนาดไหน เพราะยิ่งระยะเวลาที่เยอะขึ้น ก็หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เยอะขึ้น และเวลาที่ต้องเสียไป บอกเลยว่าขนาดยู่ยี่ที่คิดว่าตัวเองแน่ ก็เสียน้ำตามาแล้ว 55
📕📕Timeline การเรียนภาษาเยอรมันของยู่ยี่📕📕
1. ยู่ยี่เริ่มเรียนภาษาเยอรมันที่ไทยออนไลน์กับเรียนด้วยตัวเองตั้งแต่ 0 ถึงสอบระดับ B1 ผ่านใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน คือต้องบอกว่าเร่งมาก เพราะตอนนั้นก็อายุเยอะพอควรแล้ว อยากจะเรียนให้เร็วที่สุด และขอวีซ่าไปเรียนภาษาต่อที่เยอรมันและจะได้เข้าเรียนปริญญาโทสักที แต่ถ้าน้องคนไหนมีเวลาก็แนะนำให้ไปเรียนที่เกอเธ่ชิวๆ ไม่ต้องเร่งอะไรขนาดนั้น
2.ตุลาคม 2019- ขอวีซ่าไปเรียนภาษาต่อระดับ B2-เตรียมตัวสอบTestDaf ที่ประเทศเยอรมัน โดยเรียนที่ TUDIAS ที่เมือง Dresden ซึ่งคอร์สนี้กินเวลา 1 เทอม หรือประมาณ 4 เดือน ราคาคอร์ส 1980 ยูโร ประมาณ 74,000 บาท ซึ่งถือว่าโอเค ไม่แพงมาก
เว็ปไซด์ของโรงเรียน https://www.tudias.de/deutsch-als-fremdsprache/
3.เมษายน 2020 - สอบ Preparatory Course ของมหาลัย Dresden ผ่าน ซึ่งทำให้เรียนภาษาเยอรมันระดับ B2-เตรียมตัวสอบ DSH ของมหาลัยฟรี 1 เทอม ก็คือ 4 เดือนนั่นเอง (ถือว่าโชคดีมากๆ ไม่งั้นจะต้องเสียเงินเองอีกเจ็ดหมื่นบาท)
4. กรกฏา 2020 - สอบ TestDaf ครั้งแรก (ค่าสอบ 190 ยูโร ประมาณ 7000 บาท) ปกติถ้าจะสมัครเรียนสายวิศวะของมหาลัยยู่ยี่ จะต้องยื่นคะแนน TestDaf 4 4 4 4 นั่นคือ ฟัง 4 พูด 4 อ่าน 4 เขียน 4 จากเต็ม 5 ยู่ยี่ซึ่งสอบได้ 4 4 3(เขียน) 4 ก็คือสอบภาษาไม่ผ่านครั้งแรกในชีวิต ร้องไห้ขี้แตกขี้แตน 1 อาทิตย์เต็มๆ
5.สมัครสอบ TestDaf ทันทีอีกสองรอบ เพราะการสอบ TestDaf จะต้องรอผลสอบ 6 อาทิตย์ และมีสอบแค่สองเดือนหนึ่งครั้งเท่านั้น คือพูดง่ายๆว่า ก่อนที่ผลของรอบเก่าจะออก คือต้องสอบรอบใหม่แล้ว ยู่ยี่ผู้ซึ่งไม่มั่นใจในตัวเองอีกแล้วว่าจะสอบผ่านในรอบเดียว ก็เลยสมัครสอบแม่งไปเลยสองรอบ ซึ่งต้องขอบอกว่าสองรอบนี้เป็นสองรอบสุดท้ายแล้ว เพราะต้องยื่นคะแนนภาษาก่อนเดือน ตุลาคม 2020 ถ้าอยากจะเริ่มเรียนปริญญาโทของเทอมฤดูหนาวนี้ คือพูดง่ายๆว่าถ้าพลาด ต้องรอไปอีก 1 ปีเลย เพราะสาขายู่ยี่เปิดสมัครเรียนแค่ทุกเทอมฤดูหนาว ก็คือเดือนตุลาคมของทุกปีเท่านั้น คือกดดันมากกกก ถ้าสอบไม่ผ่านก็คงต้องหอบผ้ากลับประเทศไทยเท่านั้น 55 และเพื่อกันเหนียว ยู่ยี่ก็ลงสอบ DSH ของมหาลัย Dresden ไปด้วย ที่มีสมญานามว่าเป็นข้อสอบที่ยากที่สุดในเยอรมัน (DSH คือการสอบภาษาที่แต่ละมหาวิทยาลัยจัดสอบเอง และออกข้อสอบเอง ซึ่งความยากง่ายของข้อสอบจะไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกับ TestDaf ที่เหมือนกันในแต่ละรอบทั่วโลก) ซึ่งเพื่อนคนจีนที่เรียนภาษาเยอรมันมาด้วยกันก็ด่ายู่ยี่ว่าบ้ารึป่าว DSH ของมหาลัยนี้ยากจะตาย คนผ่านมีแค่ 20% ของคนสอบเท่านั้น ยู่ยี่ผู้ซึ่งไม่มีทางเลือกแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร
6.กันยายน 2021 ผลสอบ Testdaf รอบสองออก ยู่ยี่ได้ 5(อ่าน) 5(ฟัง) 4(เขียน) 4(อ่าน) กรี๊ดลั่น สอบผ่านแล้ว เอาผลคะแนนยื่นมหาวิทยาลัยทันที และด้วยปาฏิหาริย์ใดๆไม่ทราบ ยู่ยี่ก็สอบ DSH2 ของมหาวิทยาลัย Dresden ผ่านด้วย (ปกติ DSH จะมี 3 ระดับ แต่ถ้าเรียนสายวิศวะต้องผ่าน DSH2)
7.ต้นตุลาคม 2020 ผลสอบ TestDaf รอบสามออก ยู่ยี่ได้ 5 5 4 4 อีกครั้ง ผ่าน แต่ก็ไม่มีผลอะไรเพราะยื่นคะแนนไปแล้ว บทจะผ่านก็ผ่านมันหมดเลย 55555 ตอนเห็นคะแนนหัวเราะเหมือนคนบ้ามาก เสียดายเงินค่าสอบไม่ใช่อะไร แต่ก็นะ ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าจะสอบผ่านรึป่าวไง รู้สึกขอบคุณในความพยายามของตัวเองมาก
8.ปลายตุลาคม 2020 ได้เข้าเป็นนักศึกษาปริญญาโทของ TU Dresden อย่างเป็นทางการ
สิริรวมการเรียนภาษาเยอรมันของยู่ยี่ จนถึงสอบผ่านภาษาคือ 10 เดือน สรุปค่าใช้จ่ายอีกทีดังนี้
1.คอร์ส B2-TestDaf ที่ TUDIAS = 74000 บาท
2.ค่าสอบ TestDaf 3 ครั้ง (7000*3) = 21000 บาท
3.ค่าสอบ DSH 1 ครั้ง = 5000 บาท
รวม 100,000 บาท
ส่วนค่าอยู่ค่ากินอื่นๆ ยู่ยี่เขียนไปในโพสก่อนหน้าแล้ว ซึ่งถ้าเอามารวมตีกลมๆว่าถ้าจะมาเรียนภาษาเยอรมันที่ประเทศเยอรมัน กรณีเสียเต็มเอง 1 ปีไม่ได้สอบของมหาลัยแบบยู่ยี่ได้ จะใช้เงินประมาณ
1. ค่าคอร์ส 150,000-200,000
2. ค่าอยู่เดือนละประมาณ 20,000-30,000*12 = 240,000 ตีซะ 300,000
3. ค่าสอบตีไปสัก 20,000
ค่าประมาณแบบไม่โลกสวยคือต้องมีเงินในกระเป๋าสัก 500,000 บาท จะเยอะหรือน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียน เมืองที่ตั้ง และปริมาณการกินของตัวเอง
แต่!!!!!!ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องเสียจุดนี้นะจ๊ะ!!!!! ใช้คะแนน IELTS ยื่นเอา
จากประสบการณ์ที่คุยกับเพื่อน หรือน้อง หรือพี่หลายคนที่มาเรียนภาษาเยอรมันเพื่อสอบภาษาเข้ามหาลัย ระยะเวลาการเรียนของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคน 1 ปี บางคน 2 บางคน 3 ทั้งหลายทั้งปวงขึ้นอยู่กับบุคคลจริงๆ แต่คิดว่าไม่มีอะไรไกลเกินความพยายามของเรา
ประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่มีทุนเยอะมาก เด็กไทย 70% ที่ยู่ยี่รู้จักก็เป็นเด็กทุนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรยากเกินความสามารถเราแน่นอน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
มีคำถามอะไรทิ้งไว้ได้เลยนะคะ
รัก
ยู่ยี่ <3
เด็กไทย 在 Woody Facebook 的最讚貼文
I’m so proud of you guys 🎉
2 เด็กไทย #PATRICK #NINE และน้องๆ อีก9 คน ที่ทำตามความฝันสำเร็จ
ยินดีด้วยนะครับ รอดูผลงานเลย ❤️ #CHUANG2021Final
เด็กไทย 在 Beam Sensei Youtube 的最佳解答
พาอิซากะไปเที่ยวโรงเรียนอนุบาลมาจ้า
เล่นเป็นเด็กๆไปเลย เหมือนได้เพื่อนใหม่ 555
โรงเรียนอนุบาล Mark For Future อนุบาล 2 ภาษา ที่เน้นความสามารถทางด้านดนตรี ประทับใจมากๆๆๆๆๆๆๆ
ปล.ตกลงเชจูจะเรียนที่นี่แล้ว ฮ่าๆๆๆ
ปล.ตอนนี้มีประถมแล้วด้วยนะ
ขอบพระคุณโรงเรียนอนุบาล Mark For Future
Tel. 061 386 6663 | mffkindergarten.com
ลงทะบียนนัดหมายล่วงหน้าเข้าชมโรงเรียน
https://mffkindergarten.com/register-mffkindergarten
Line ID : mffkindergarte
#คนญี่ปุ่น #โรงเรียน #mffkindergarten
---------------------------------------------
みなさんはタイの学校や大学に行ったことがありますか。
井坂は大学と高校は連れて行ったことがありますが、小学校・幼稚園はないので、この前、連れて行きました~。
音楽をメインにしているバイリンガルの幼稚園で、わたしも知らないことばかりで、面白かったです。
井坂は先生なのか子どもなのかわからないくらい、溶け込んでました55555
これからも観光地だけじゃなくて、普段は見ることができない学校や会社の中とかにも行けたらなと思います!
ติดตาม 【BeamSensei】ได้ที่
びーむのSNS
Facebook
http://www.facebook.com/BeamSensei
Twitter
https://twitter.com/BeamSensei
Instagram
https://www.instagram.com/beamsensei
TikTok
https://www.tiktok.com/@beamsensei
ติดต่องาน
Contact for work
beamsensei@hotmail.com
หรือ
bumbimz@gmail.com
เด็กไทย 在 TheBabyboom Youtube 的最佳解答
เด็กจะตอบว่าอะไรก็ได้ไม่ผิด ครูต้องแนะนำว่าแนวทางควรเป็นอย่างไร ไม่ดูถูกเด็ก แต่ควรแนะนำ แม้อาชีพที่ไม่มีจริงในตอนนี้ ก็อาจเป็นจริงได้ในอนาคต
ถ้า 25 ปีก่อน ผมบอกว่าผมอยากเป็นเจ้าของรายการ TV เป็นพิธีกร ถ่ายรายการเอง คงถูกหัวเราะและดูถูกว่า ใครจะมาดู เอาเงินที่ไหนทำ ไม่มีทางเป็นไปได้ ... แต่ในปัจจุบัน ผมทำช่อง YouTube
ดังนั้นอย่าดูถูกความฝีนเด็กๆ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง
เด็กไทย 在 TheBabyboom Youtube 的精選貼文
ต้องเรียนเยอะ ต้องเรียนเก่ง ต้องเรียนดี ...เพื่อ???
หน้าตา พ่อแม่ ชื่อเสียงโรงเรียน ความพอใจของญาติดๆ
จะได้ไม่อายเพื่อน .... แล้ว ความสุขของเด็ก...เคยมองกันมั้ย อนาคตเค้า จะมีความสุขได้ยังไง ถ้าทุกวันต้อง ถูกกดดัน จากคนรอบข้าง คนใกล้ตัว
#คืนความสุขให้เด็กๆ #การศึกษาไทย