คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40” ไหมครับ ผมเองตอนได้ยินคำพูดนี้ครั้งแรกก็ไม่เข้าใจ และสงสัยว่าจะไปเริ่มต้นทำไมตอน 40 เพราะชีวิตเรามันเริ่มต้นตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วไม่ใช่เหรอ ?
.
Michael Gates Gill ชายชาวอเมริกันคนหนึ่ง ซึ่งเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย มีพ่อเป็นนักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา
.
ทันทีที่เรียนจบก็ได้เข้าทำงานกับบริษัทโฆษณาชั้นนำระดับโลก เขาใช้ชีวิตอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ และชอบการทำงานหนักตามสไตล์ของคนอเมริกันผิวขาวทั่วไป จนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปอยู่ในระดับสูง เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถซื้อได้ทั้งรถและบ้านที่มีถึง 25 ห้อง
.
ชีวิตของเขาเรียกได้ว่า Perfect Man คือ สมบูรณ์แบบตามฉบับ American Dream เลยก็ว่าได้
.
แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก อยู่มาวันหนึ่งเขาโดนไล่ออกจากบริษัทเพราะผู้บริหารมองว่าเงินเดือนของเขานั้นสูงเกินไป ในขณะที่ทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้ไม่กี่อย่าง สู้เอาเงินเดือนของเขา ไปจ้างเด็กจบใหม่ ที่มีความคิดใหม่ๆ ได้อีกตั้งหลายคนน่าจะดีกว่า
.
สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เขาช็อกไปหมด ทำตัวไม่ถูก
.
แต่ด้วยความที่เคยมีประสบการณ์ในงานโฆษณาแถมอยู่ในตำแหน่งระดับสูง จึงคิดง่ายๆ ว่างั้นเปิดบริษัทโฆษณาเป็นของตัวเองแล้วกัน
.
แต่พอเอาเข้าจริง ปรากฎว่าหาลูกค้าไม่ได้เลย เพราะแนวคิดการทำโฆษณาของเขานั้นมันเก่าไปแล้ว จึงไม่ถูกใจลูกค้ารุ่นใหม่เลยสักคน
.
เขากลุ้มใจมาก ทุกๆ วันเขาได้แต่ออกไปนั่งในร้าน Starbucks ที่ Boardway เพื่อพยายามติดต่อลูกค้าคนแล้วคนเล่า เขาไปนั่งทุกวันจนกระทั่งผู้หญิงผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน Starbucks ที่สังเกตเห็นเขาบ่อยๆ จึงได้เอ่ยปากชวนเขามาทำงานที่ร้าน
.
ณ นาทีนั้นเขาคิดอะไรไม่ออก เพราะลำพังตัวเองก็ไม่มีเงินเดือน ขาดประกันสุขภาพ แถมต้องเลี้ยงดูลูกอีก 5 คน หนำซ้ำยังโดนภรรยาฟ้องหย่าอีก เขาไม่มีทางเลือก จึงตบปากรับคำทันที
.
หลายคนอาจจะคิดว่าระดับ Michael คงจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งรองผู้จัดการ หรือ ไม่ก็หัวหน้างาน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะงานของเขานั้นต้องใช้แรงงานทุกอย่าง ตั้งแต่เสิร์ฟอาหาร ทำความสะอาดร้าน ล้างห้องน้ำ เทขยะ โดยรับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 10 เหรียญ
.
แน่นอนว่าคนมันเคยร่ำรวยมาก่อน บวกกับตัวเองนั้นมีอคติกับคนผิวดำและคนชั้นล่างอยู่แล้ว การที่จะให้มาทำอะไรแบบนี้ในฐานะลูกน้องคนผิวดำ คงไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์นัก
.
แต่จะทำไงได้ ก็มันไม่มีทางเลือก มีอะไรก็ต้องทนทำไปก่อน
.
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่ย้ำแย่ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เขายังคงทำงานเหล่านั้นอย่างขยันขันแข็ง โดยไม่ได้เอาความรู้สึกเหล่านั้นมาทำให้การทำงานของเขาย้ำแย่ตามไปด้วยแต่อย่างใด
.
จนหัวหน้าผิวดำก็เอ่ยปากชื่นชมเขาตลอด เพราะเขาทำความสะอาดห้องน้ำจนใหม่เอี่ยม ไม่เพียงแค่หัวหน้าเท่านั้น ลูกค้าเองก็ชื่นชอบเขาเช่นกัน เพราะเขาเป็นคนที่ลูกค้าคุยด้วยแล้วสนุก
.
เมื่อวันเวลาผ่านไปเขารู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความสุขกับงาน รวมถึงเพื่อนรวมงานผิวดำที่ต่างชนชั้นของเขามากเสียยิ่งกว่าตอนทำงานเงินเดือนเป็นล้านเสียอีก
.
ฐานะที่ตกต่ำลงอย่างฉับพลัน ทำให้เขาได้ค้นพบความสุขแบบใหม่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การมีชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ แม้กระทั่งคุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์
.
ในที่สุดชายคนนี้ก็ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น ส่วนร้าน Starbucks สาขา Boardway ก็ได้กลายเป็นร้านดีเด่นในอเมริกาเช่นเดียวกัน
.
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเถียงขึ้นมาในใจว่า ก็ไม่เห็นแปลก ก็แค่ตกงาน ทำไมไม่หางานใหม่ที่มันดีๆ กว่านี้ จะไปทำงานเป็นลูกจ้าง Starbucks ทำไม
.
แต่สิ่งที่ผมลืมบอกไป คือ Michael Gates Gill ถูกไล่ออกจากงานตอนอายุ 64 ปี
.
ชีวิตคุณลุงคนนี้เริ่มต้นตอนอายุ 64 ปี แล้วคุณล่ะครับ เริ่มต้นตอนไหน ?
.
พออ่านเรื่องนี้จบแล้ว ผมในวัย 24 ปี ก็นึกย้อนกลับไปดูชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง
.
ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่หลายครั้งมาก !
.
ครั้งแรกผมโดนไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมตอนอยู่ ม.6 เทอม 1 ด้วยปัญหาบางอย่างที่ผิดกฎของโรงเรียน เรียกได้ว่าช่วงเวลานั้นชีวิตผมจมทุกข์มากที่สุด ทั้งผิดหวัง ทั้งอาย เพราะอีกแค่ 1 เทอมก็จะเรียนจบแล้ว ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อยู่กับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาเกือบ 6 ปี ในวันปัจฉิมนิเทศ
.
แต่ใครจะไปรู้ การที่ผมย้ายไปโรงเรียนใหม่ มันเหมือนชีวิตใหม่ของผมเลย ผมใช้ความสามารถด้านกีฬาเทควันโดของตัวเองสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และ ดึงนักเรียนใหม่เข้ามาโรงเรียนได้เป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่เจ้าของโรงเรียนประกาศในวันปัจฉิมนิเทศทางไมค์โครโฟนว่า ผมน่าจะมาให้เร็วกว่านี้
.
ต่อมาผมที่อยู่ในเส้นทางกีฬาที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ ผมไต่เต่าตัวเองจนมาแข่งในระดับประเทศได้ ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่ไกลเกินเอื้อมมันก็น่าจะมีโอกาสไปถึงฝัน
.
แต่อยู่มาวันหนึ่งในวันที่ผมเป็นไข้หวัด ผมมีอาการไอหนักมาก จนการไอครั้งหนึ่งทำให้เส้นเอ็นบริเวณแผ่นหลังกระตุก มันรุนแรงถึงขนาดที่ผมเองเจ็บจนต้องลงไปนอนอยู่กับพื้น และเจ็บจนต้องหยุดเล่นกีฬาไปเกือบ 2 ปี และแน่นอนว่าผมไม่สามารถกลับมาเล่นได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ความฝันของผมพังทลายลงด้วยเรื่องที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นตอนอยู่ ปี 3
.
อย่างไรก็ตาม ผมอาศัยความรู้ที่มีเปิดโรงเรียนสอนเทควันโด ซึ่งมันก็ไปได้สวย ด้วยชื่อเสียงที่เคยสร้างไว้ มีนักเรียนมาสมัครเรียนกับผมมากมาย จนสามารถพาลูกศิษย์ไปคว้าเหรียญทองชิงแชมป์ประเทศไทยได้
.
แต่แล้ววันหนึ่งไวรัส โควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ไม่สามารถเปิดสอนเทควันโดได้อีก นักเรียนจำนวนมากทยอยลาออก เพราะผู้ปกครองหลายคนก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์จนไม่สามารถส่งบุตรหลานมากเรียนได้ ผมต้องปิดโรงเรียนสอนเทควันโดและหยุดเดินในเส้นทางกีฬาที่ผมรักมาตลอด 13 ปี
.
ตอนนั้นตัวผมเองที่ทำงานประจำอยู่กรุงเทพฯ โดยมีงานอดิเรกคือการอ่านหนังสือ และ มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ลองเขียนบทความ และ สรุปหนังสือ ลงในเพจบนแอป Blockdit เพื่อหารายได้เสริมและเปิดเพจใน Facebook ควบคู่ไปด้วยระหว่างทำงานประจำ
.
จนวันหนึ่งเพจเติบโตขึ้น ผมก็ลองขายหนังสือ โดยอาศัยกำไรแค่ไม่กี่บาท จนยอดขายเติบโตขึ้น สามารถต่อรองราคากับซัพพลายเออร์ได้ มีนักเขียน สำนักพิมพ์ ติดต่อมามากมาย จนวันนี้ผมมีโอกาสได้เขียนหนังสือของตัวเอง และ ขึ้นอันดับหนังสือขายดีตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย
.
ต่อมาผมใช้เงินจากธุรกิจที่มี ต่อยอดธุรกิจอื่นๆ จนทำเงินหลักล้านได้ภายใน 2 เดือน สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
.
ไม่น่าเชื่อเลยว่า จากคนที่อยู่ในวงการกีฬามาตั้งแต่เด็ก จะพลิกผันมาอยู่ในวงการหนังสือได้
.
แต่อย่างว่าละครับ ขนาดลุงวัย 64 ยังเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เลย แล้วตัวเราเองล่ะ ทำไมจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้
.
อย่างที่คุณโหน่ง วงศ์ทนง พูดเอาไว้ใน ”หนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว” ว่า อาจจะมีคำพูดว่าชีวิตเริ่มต้นตอนอายุ 20 40 หรือว่า 60 ก็ตาม แต่สำหรับผมชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ ”ทุกวัน” ตราบใดที่เรายังลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วสามารถสูดลมหายใจอย่างเต็มปอดได้
.
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตขอให้เข้มแข็ง อดทน ตั้งใจต่อสู้กับมัน ด้วยสติและปัญญา ถ้าใจสู้ คุณจะไม่แพ้ อย่างเลวที่สุดก็แค่เสมอ ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ เรายังมีความหวัง อย่างน้อยก็หวังว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้แน่นอน”
.
.
Ref : สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตจาก 7 คอลัมนิสด์ชื่อดังของเจาะใจ ได้ในหนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว
「ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 หนังสือ」的推薦目錄:
ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 หนังสือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40” ไหมครับ ผมเองตอนได้ยินคำพูดนี้ครั้งแรกก็ไม่เข้าใจ และสงสัยว่าจะไปเริ่มต้นทำไมตอน 40 เพราะชีวิตเรามันเริ่มต้นตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วไม่ใช่เหรอ ?
.
Michael Gates Gill ชายชาวอเมริกันคนหนึ่ง ซึ่งเกิดในครอบครัวที่ร้ำรวย มีพ่อเป็นนักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา
.
ทันทีที่เรียนจบก็ได้เข้าทำงานกับบริษัทโฆษณาชั้นนำระดับโลก เขาใช้ชีวิตอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ และชอบการทำงานหนักตามสไตล์ของคนอเมริกันผิวขาวทั่วไป จนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปอยู่ในระดับสูง เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถซื้อได้ทั้งรถและบ้านที่มีถึง 25 ห้อง
.
ชีวิตของเขาเรียกได้ว่า Perfect Man คือ สมบูรณ์แบบตามฉบับ American Dream เลยก็ว่าได้
.
แต่ก็เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก อยู่มาวันหนึ่งเขาโดนไล่ออกจากบริษัทเพราะผู้บริหารมองว่าเงินเดือนของเขานั้นสูงเกินไป ในขณะที่ทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้ไม่กี่อย่าง สู้เอาเงินเดือนของเขา ไปจ้างเด็กจบใหม่ ที่มีความคิดใหม่ๆ ได้อีกตั้งหลายคนน่าจะดีกว่า
.
สิ่งที่เกิดขึ้นเร็วมาก เขาช็อกไปหมด ทำตัวไม่ถูก
.
แต่ด้วยความที่เคยมีประสบการณ์ในงานโฆษณาแถมอยู่ในตำแหน่งระดับสูง จึงคิดง่ายๆ ว่างั้นเปิดบริษัทโฆษณาเป็นของตัวเองแล้วกัน
.
แต่พอเอาเข้าจริง ปรากฎว่าหาลูกค้าไม่ได้เลย เพราะแนวคิดการโฆษณาของเขานั้นมันเก่าไปแล้ว จึงไม่ถูกใจลูกค้ารุ่นใหม่เลยสักคน
.
เขากลุ้มใจมาก ทุกๆ วันเขาได้แต่ออกไปนั่งในร้าน Starbucks ที่ Boardway เพื่อพยายามติดต่อลูกค้าคนแล้วคนเล่า เขาไปนั่งทุกวันจนกระทั่งผู้หญิงผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน Starbucks ที่สังเกตเห็นเขาบ่อยๆ จึงไปเอ่ยปากชวนเขามาทำงานที่ร้าน
.
ณ นาทีนั้นเขาคิดอะไรไม่ออก เพราะลำพังตัวเองก็ไม่มีเงินเดือน ขาดประกันสุขภาพ แถมต้องเลี้ยงดูลูกอีก 5 คน หนำซ้ำยังโดนภรรยาฟ้องหย่าอีก เขาไม่มีทางเลือก จึงตบปากรับคำทันที
.
หลายคนอาจจะคิดว่าระดับ Michael คงจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งรองผู้จัดการ หรือ ไม่ก็หัวหน้างาน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะงานของเขานั้นต้องใช้แรงงานทุกอย่าง ตั้งแต่เสิร์ฟอาหาร ทำความสะอาดร้าน ล้างห้องน้ำ เทขยะ โดยรับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 10 เหรียญ
.
แน่นอนว่าคนมันเคยร่ำรวยมาก่อน บวกกับตัวเองนั้นมีอคติกับคนผิวดำและคนชั้นล่างอยู่แล้ว การที่จะให้มาทำอะไรแบบนี้ในฐานะลูกน้องคนผิวดำ คงไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์นัก
.
แต่จะทำไงได้ ก็มันไม่มีทางเลือก มีอะไรก็ต้องทนทำไปก่อน
.
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันเป็นช่วงเวลาที่ย้ำแย่ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เขายังคงทำงานเหล่านั้นอย่างขยันขันแข็ง โดยไม่ได้เอาความรู้สึกเหล่านั้นมาทำให้การทำงานของเขาย้ำแย่ตามไปด้วยแต่อย่างใด
.
จนหัวหน้าผิวดำก็เอ้ยปากชื่นชมเขาตลอด เพราะเขาทำความสะอาดห้องน้ำจนใหม่เอี่ยม ไม่เพียงแค่หัวหน้าเท่านั้น ลูกค้าเองก็ชื่นชอบเขาเช่นกัน เพราะเขาเป็นคนที่ลูกค้าคุยด้วยแล้วสนุก
.
เมื่อวันเวลาผ่านไปเขารู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความสุขกับงาน รวมถึงเพื่อนรวมงานผิวดำที่ต่างชนชั้นของเขามากเสียยิ่งกว่าตอนทำงานเงินเดือนเป็นล้านเสียอีก
.
ฐานะที่ตกต่ำลงอย่างฉับพลัน ทำให้เขาได้ค้นพบความสุขแบบใหม่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การมีชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ แม้กระทั่งคุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์
.
ในที่สุดชายคนนี้ก็ได้รับรางวัลพนักงานดีเด่น ส่วนร้าน Starbucks สาขา Boardway ก็ได้กลายเป็นร้านดีเด่นในอเมริกาเช่นเดียวกัน
.
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเถียงขึ้นมาในใจว่า ก็ไม่เห็นแปลก ก็แค่ตกงาน ทำไมไม่หางานใหม่ที่มันดีๆ กว่านี้ จะไปทำงานเป็นลูกจ้าง Starbucks ทำไม
.
แต่สิ่งที่ผมลืมบอกไป คือ Michael Gates Gill ถูกไล่ออกจากงานตอนอายุ 64 ปี
.
ชีวิตคุณลุงคนนี้เริ่มต้นตอนอายุ 64 ปี แล้วคุณล่ะครับ เริ่มต้นตอนไหน ?
.
พออ่านเรื่องนี้จบแล้วผมในวัย 24 ปี ก็นึกย้อนกลับไปดูชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง
.
ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่หลายครั้งมาก !
.
ครั้งแรกผมโดนไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมตอนอยู่ ม.6 เทอม 1 ด้วยปัญหาบางอย่างที่ผิดกฎของโรงเรียน เรียกได้ว่าช่วงเวลานั้นชีวิตผมจมทุกข์มากที่สุด ทั้งผิดหวัง ทั้งอาย เพราะอีกแค่ 1 เทอมก็จะเรียนจบแล้ว ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อยู่กับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาเกือบ 6 ปี ในวันปัจฉิมนิเทศ
.
แต่ใครจะไปรู้ การที่ผมย้ายไปโรงเรียนใหม่ มันเหมือนชีวิตใหม่ของผมเลย ผมใช้ความสามารถด้านกีฬาเทควันโดของตัวเองสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และ ดึงนักเรียนใหม่เข้ามาโรงเรียนได้เป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่เจ้าของโรงเรียนประกาศในวันปัจฉิมนิเทศทางไมค์โครโฟนว่า ผมน่าจะมาให้เร็วกว่านี้
.
ต่อมาผมที่อยู่ในเส้นทางกีฬาที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ ผมไต่เต่าตัวเองจนมาแข่งในระดับประเทศได้ ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่ไกลเกินเอื้อมมันก็น่าจะมีโอกาสไปถึงฝัน
.
แต่อยู่มาวันหนึ่งในวันที่ผมเป็นไข้หวัด ผมมีอาการไอหนักมาก จนการไอครั้งหนึ่งทำให้เส้นเอ็นบริเวณแผ่นหลังกระตุก มันรุนแรงถึงขนาดที่ผมเองเจ็บจนต้องลงไปนอนอยู่กับพื้น และเจ็บจนต้องหยุดเล่นกีฬาไปเกือบ 2 ปี และแน่นอนว่าผมไม่สามารถกลับมาเล่นได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ความฝันของผมพังทลายลงด้วยเรื่องที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นตอนอยู่ ปี 3
.
อย่างไรก็ตาม ผมอาศัยความรู้ที่มีเปิดโรงเรียนสอนเทควันโด ซึ่งมันก็ไปได้สวย ด้วยชื่อเสียงที่เคยสร้างไว้ มีนักเรียนมาสมัครเรียนกับผมมากมาย จนสามารถพาลูกศิษย์ไปคว้าเหรียญทองชิงแชมป์ประเทศไทยได้
.
แต่แล้ววันหนึ่งไวรัส โควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ไม่สามารถเปิดสอนเทควันโดได้อีก นักเรียนจำนวนมากทยอยลาออก เพราะผู้ปกครองหลายคนก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์จนไม่สามารถส่งบุตรหลานมากเรียนได้ ผมต้องปิดโรงเรียนสอนเทควันโดและหยุดเดินในเส้นทางกีฬาที่ผมรักมาตลอด 13 ปี
.
ตอนนั้นตัวผมเองที่ทำงานประจำอยู่กรุงเทพฯ โดยมีงานอดิเรกคือการอ่านหนังสือ และ มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็ลองเขียนบทความ และ สรุปหนังสือ ลงในเพจบนแอป Blockdit เพื่อหารายได้เสริมและเปิดเพจใน Facebook ควบคู่ไปด้วยระหว่างทำงานประจำ
.
จนวันหนึ่งเพจเติบโตขึ้น ผมก็ลองขายหนังสือ โดยอาศัยกำไรแค่ไม่กี่บาท จนยอดขายเติบโตขึ้น สามารถต่อรองราคากับซัพพลายเออร์ได้ มีนักเขียน สำนักพิมพ์ ติดต่อมามากมาย จนวันนี้ผมมีโอกาสได้เขียนหนังสือของตัวเองที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอวันวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้
.
ไม่น่าเชื่อเลยว่า จากคนที่อยู่ในวงการกีฬามาตั้งแต่เด็ก จะพลิกผันมาอยู่ในวงการหนังสือได้
.
แต่อย่างว่าละครับ ขนาดลุงวัย 64 ยังเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เลย แล้วตัวเราเองล่ะ ทำไมจะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้
.
อย่างที่คุณโหน่ง วงศ์ทนง พูดเอาไว้ใน ”หนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว” ว่า อาจจะมีคำพูดว่าชีวิตเริ่มต้นตอนอายุ 20 40 หรือ ว่า 60 ก็ตาม แต่สำหรับผมชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ ”ทุกวัน” ตราบใดที่เรายังลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วสามารถสูดลมหายใจอย่างเต็มปอดได้
.
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตขอให้เข้มแข็ง อดทน ตั้งใจต่อสู้กับมัน ด้วยสติและปัญญา ถ้าใจสู้ คุณจะไม่แพ้ อย่างเลวที่สุดด็แค่เสมอ ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ เรายังมีความหวัง อย่างน้อยก็หวังว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้แน่นอน”
.
.
สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตจาก 7 คอลัมนิสด์ชื่อดังของเจาะใจ ได้ในหนังสือ เรื่องนี้ดี รู้งี้อ่านนานแล้ว
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล