เขาว่ากันว่า “คนที่โชคดีที่สุด” ไม่ต้องดิ้นรนหาหรือสร้างใหม่ด้วยตัวเอง คือคนที่ครอบครัวปูทางสร้างธุรกิจไว้ให้สืบทอดต่อในอนาคต หรือที่เรียกว่า “ธุรกิจกงสี” แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องจริง ไม่ได้ราบรื่นสวยงามอย่างที่หลายคนคิด เพราะการสร้างขึ้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาให้คงอยู่ต่อไปนั้นยากกว่ามาก ทำให้ทายาทหลายๆ คน มักรู้สึกกดดัน และกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเหมือนดั่งที่รุ่นปู่ รุ่นพ่อสร้างไว้
.
ประกอบกับมีคำที่เราเคยได้ยินกันบ่อยว่า ธุรกิจกงสี คือธุรกิจที่ถูกสร้างและเริ่มประสบความสำเร็จในรุ่นแรก มั่นคงในรุ่นที่สอง และมักล้มเหลวในรุ่นที่สาม ซึ่งสอดคล้องกับสถิติ ของเครดิตสวิส ที่ว่า ผลประกอบการธุรกิจครอบครัวในรุ่นแรกและรุ่นที่สอง จะสามารถสร้างมูลค่ากิจการให้เติบโตประมาณปีละ 9% แต่เมื่อธุรกิจตกไปอยู่ในมือของทายาทรุ่นที่สาม ตัวเลขจะลดลงมาอยู่ที่ปีละ 6.5% จึงนับว่าเป็นโจทย์ยากสำหรับทายาทรุ่นที่สาม ที่ต้องรับไม้ต่อดูแลธุรกิจให้อยู่รอด เติบโต ไม่ล้มเหลว และสามารถส่งไม้ต่อให้กับทายาทในรุ่นต่อๆ ไปได้
.
❗️ หากถามว่า ธุรกิจกงสีส่วนใหญ่ ทำไมถึงก้าวต่อไปได้ไม่เกินรุ่นที่สาม ?
.
1. ขาดการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสมาชิกในครอบครัว
2. ขาดการวางแผนการสืบทอดกิจการ และการเลือกสมาชิกในครอบครัวขึ้นมาเป็นทายาทผู้สืบทอดคนต่อไป ทำให้เกิดการแก่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์
3. ขาดการวางแผนกลยุทธ์ทั้งในด้านการบริหารธุรกิจและบริหารการเงิน
4. ขาดเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญและอาจมีผลกระทบต่อธุรกิจในช่วงรอยต่อของการสืบทอดกิจการ เช่น พินัยกรรม ธรรมนูญครอบครัว สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น เป็นต้น
5. ไม่มีมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตให้ธุรกิจในทุกๆ ยุคสมัย
6. รุ่นที่สามเป็นรุ่นที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ทั้งจากกระแส Digital Disruption และระบบเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจที่ยังคงมีโครงสร้างการบริหารแบบเดิมๆ ที่ยังไม่เอื้อต่อการธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
.
✅ แล้วรุ่นที่สาม รวมถึงรุ่นหลังๆ จะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับไม้ต่ออย่างไรให้ธุรกิจอยู่รอดและไม่ล้มในรุ่นตัวเอง
.
1.ไม่ทิ้งสิ่งเก่าที่ปู่สร้าง แต่นำมาพัฒนาต่อยอดสู่ “สิ่งใหม่” ที่ตอบโจทย์มากกว่าเดิม
แม้ธุรกิจที่มีอยู่นั้นจะดีอยู่แล้ว แต่เพราะการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ตลอดเวลา การจะขายแต่สิ่งเก่าๆ เดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับตลาดและผู้บริโภคทุกคนเสมอไป ดังนั้น จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อก้าวสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม เช่น นำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในธุรกิจเพิ่มขึ้น, ปรับเปลี่ยนแพ็กเกจจิงของสินค้าให้ทันสมัย, พัฒนาสินค้าเดิมให้มีความหลากหลาย รวมถึงดึงคนรุ่นใหม่ไฟแรง ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมงานด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ไม่ควรทิ้งสิ่งเดิมที่ดีอยู่แล้ว ทั้งสินค้า บริการ หรือกระทั่งพนักงานคนเก่าแก่ของบริษัทเพื่อรักษาสมดุลการทำงานและความสัมพันธ์ของคนในบริษัท
.
2.สร้างธรรมนูญครอบครัวที่ดี แลกเปลี่ยนสื่อสารข้อมูลระหว่างคนในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ
ขึ้นชื่อว่า ”ธุรกิจกงสี หรือ ธุรกิจครอบครัว” สิ่งสำคัญ ไม่ควรลืมคือ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหาร ประธานบริษัท แต่ก็ไม่ควรนำตำแหน่งหน้าที่ อำนาจ มาใช้ในครอบครัวจนเกินไป แต่ควรสร้างธรรมนูญครอบครัวที่ดี วางรากฐานให้กับระบบธุรกิจและความสัมพันธ์ในครอบครัว ตำแหน่งหน้าที่ ข้อตกลง รวมถึงควรสื่อสารกับคนในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความคิดเห็นที่เป็นในทิศทางเดียวกัน และไม่เกิดความขัดแย้งในภายหลัง
.
3.เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของคนเก่งมากประสบการณ์ มากความสามารถ เช่น คุณปู่ ผู้สร้างธุรกิจจนเติบโต
จะลองผิดลองถูกด้วยตัวเองอย่างเดียวไปทำไม เพราะสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองและเข้าใจในเนื้องานมากขึ้น คือ การเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ตรงในด้านนั้นๆ รู้และเข้าใจมันเป็นอย่างดี พาตัวเองให้ไปอยู่ในที่ ๆ มีคนเก่ง ร่วมพูดคุย แชร์ไอเดียกับกูรู โดยต้องไม่มองแค่ความสำเร็จของเขาเท่านั้น แต่ต้องมองในมุมที่เขาเคยประสบปัญหา เคยล้มเหลว ว่าสาเหตุคืออะไร แล้วทำอย่างไรถึงสามารถแก้ปัญหาและก้าวเดินต่อมาได้
.
4.แยกเงินองค์กรออกจากเงินครอบครัว แบ่งสันปันส่วนความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนตามความเหมาะสม
หลายครั้งที่เราเห็นว่า ธุรกิจครอบครัว มักมีเรื่องของการแก่งแย่งชิงผลประโยชน์กัน นั่นเป็นเพราะ ยังไม่มีความชัดเจนในส่วนของความเป็นเจ้าของในด้านต่างๆ ของธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน ดังนั้น ควรแยกกระเป๋าเงินของธุรกิจออกจากกระเป๋าเงินของครอบครัว แยกบัญชีของบริษัท ที่ประกอบด้วยรายได้ ค่าใช้จ่าย หักลบกลบหนี้เหลือเท่าไหร่ ก็แบ่งสันปันส่วนให้แต่ละคนเป็นการส่วนตัว หรืออาจเป็นการให้ในรูปแบบของเงินเดือน ซึ่งก็มีทั้งในรูปแบบของคนที่ทำงานกับคนที่ถือหุ้น ครอบครัวจึงต้องมีการปรึกษาหารือเพื่อหาตรงกลางร่วมกันก่อน
.
5.วางแผนผังองค์กรให้ชัดเจน
ไม่ว่าธุรกิจครอบครัวจะขนาดใหญ่หรือเล็ก ควรวางแผนผังองค์กรให้ชัดเจน สมเหตุสมผล ว่าใครดำรงตำแหน่งอะไร ใครเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มีหน้าที่ทำอะไร กำหนดกฎเกณฑ์ ข้อควรปฏิบัติ จะช่วยกำจัดความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นในองค์กรทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้ามีการปรับเปลี่ยนทายาท ผู้สืบทอด ไม่ว่ารุ่นไหน จากรุ่นสองสู่รุ่นสาม หรือรุ่นสามส่งต่อไปรุ่นสี่ ก็ควรพูดคุยร่วมกันทุกครั้ง
.
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย นับว่าเป็นประเทศที่มีการดำเนินธุรกิจครอบครัว ติดอันดับ 8 ของโลกและอันดับ 7 ของเอเชียแปซิฟิค ด้วยมูลค่ารวมถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.56 แสนล้านบาท รวมถึงตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพด้วยจำนวนประชากรกว่า 65 ล้านคน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียน มีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ก็นับว่าธุรกิจกงสีในรุ่นที่สามยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
.
แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย เพราะสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการทำธุรกิจในรูปแบบกงสี คือ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ โดยเฉพาะนายใหญ่รุ่นหนึ่งผู้สร้างธุรกิจและสมาชิกในครอบครัว เพราะหากคนในครอบครัวเกิดความขัดแย้ง มีความเข้าใจไม่ตรงกัน ไม่สามัคคี ก็อาจส่งกระทบต่อความสั่นคลอนของทั้งธุรกิจและความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ จะทำเห็นว่าการเป็นทายาทธุรกิจแม้จะมาพร้อมกับความภาคภูมิใจ แต่ก็มาพร้อมกับภาระหน้าที่ และแรงกดดันที่แทบรับไม่ไหว
.
ดังนั้น หากรู้ตัวว่า ครอบครัวหรือตระกูลของคุณ มีธุรกิจแบบกงสี และอีกไม่นานคุณจะต้องรับไม้ต่อดูแลกิจการเป็นรุ่นที่สาม ควรเตรียมความพร้อม รีบวางแผนจัดการ ทำความรู้จักธุรกิจตัวเองให้ดี รวมถึงเรียนรู้งานจากรุ่นแรกและรุ่นที่สองให้มากๆ รับรองว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จ มั่นคง และเติบโต อย่าว่าแต่รุ่นที่สามเลย อาจจะดำเนินไปได้ไกลถึงรุ่นที่ 4, 5, 6,...
.
ที่มา : https://forbesthailand.com/commentaries/insights/%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B0.html
https://techsauce.co/tech-and-biz/how-to-manage-family-business
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS #อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #ธุรกิจกงสี #กงสี #ธุรกิจครอบครัว #familybusiness #ทายาทรุ่นที่สาม #ทายาท #กิจการครอบครัว #Business
กิจการครอบครัว 在 Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่ Facebook 的精選貼文
#STStory : เรื่องเล่าจานเด็ด EP.59
“ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู ”
แป้งแผ่นใหญ่ โบกไส้แน่น ขายมานาน กว่า 112 ปี
#สรินทร์ทิพย์ขนมเบื้องไทยตลาดพลู #ตลาดพลู
#STStoryEp59 #เรื่องเล่าจานเด็ด
⭐️ : 🌕🌕🌕🌕🌑(ร้านประจำมาย้ำบ่อยๆ)
👱♀🍑 : ขนมเบื้องร้านนี้ตกทอดมารุ่นสู่รุ่น
เป็นร้านที่ไม่มีสาขาที่ไหน กิจการครอบครัว
ขายมาตั้งแต่รุ่นของคุณยาย
"คุณสรินทร์ทิพย์ มีชูนุทร์" เป็นลูกหลานรุ่นที่ 3
ที่ดูแลกิจการต่อ
ใส่ใจในการทำวัตถุดิบต่างๆ เป็นพิเศษ
โดยทำเองทั้งหมดตามวัตถุดิบดั้งเดิม
แต่มีการปรับปริมาณวัตถุดิบบางอย่างเพื่อให้รสชาติดียิ่งขึ้น
🍞ตั้งแต่ตัวแป้ง ทำจากถั่วเขียว🥜
พออยู่บนเตาแล้ว จะได้กลิ่นหอม
กรอบกำลังดี ถึงเข้าตู้เย็นก็ยังกรอบ
🥚ตัวครีมหรือน้ำตาลเป็นแบบโบราณ
จะใช้แต่ไข่แดง จากไข่เป็ด
ราดน้ำตาลมะพร้าวลงไปผสม
ตามสูตรของทางร้าน
ตัวไข่ขาว สามารถมาขอได้ฟรี
ที่ร้านให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
🦐ไส้เค็ม ทำจากกุ้งไซซ์กำลังดี
เนื้อแน่น นำมาผัดกับมะพร้าว และปรุงรส
ขึ้นเตา โรยผักชีเพิ่ม กลมกล่อมเลยทีเดียว
😋ไส้หวาน โรยมะพร้าวแก้ว และฝอยทองทำเอง
ทานแล้วจะหวานกำลังดี
หอมตัวฝอยทองและมะพร้าว
💁♀หมวยเห็นบนเตาแล้วสะพรึงเลย
แผ่นใหญ่มาก ให้เครื่องเยอะ
โบกลงไปแบบสะใจมากๆ
ทานแล้วหวานพอดีๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหวานจนเลี่ยน
ไซซ์ปกติ ชิ้นละ 15 บาท หมวยว่าไม่แพงนะ
เทียบกับปริมาณ วัตถุดิบและรสชาติด้วย
เพราะทานแล้วมันเพลินจริงๆ นะ
ส่วนตัวหมวยจัดชิ้นพิเศษใหญ่มากมาจ้า เพื่อความสะใจ
💌ราคาโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าจากทางร้าน
- ชุดใหญ่ 8 ชิ้น 100 บาท จากปกติ 7 ชิ้น 100 บาท
ถึงสิ้นเดือน เมษายน 61 นี้เท่านั้นนะจ๊ะ
💟เคล็ดลับวิธีทาน ถ้าทานไม่หมดจ้า
☝️ถ้าไว้ข้างนอก อยู่ได้ 2 อาทิตย์ แต่ระวังมดขึ้น
✌นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา เปิดถุงวางไว้ช่องปกติ
อยู่ได้ประมาณ 2 เดือน
🙆♀สำหรับที่ชอบทานขนมไทย ร้านนี้ก็ไม่ควรพลาด
มาลิ้มลองกันดู จะได้คุยกะคนอื่นรู้เรื่อง
ช่วงเย็นๆ คนจะเยอะ มาแล้วต้องใจเย็นๆรอกันหน่อยนะจ๊ะ
ขนมเบื้องไทยตลาดพลู l ตลาดพลู
💸 : ขนมเบื้อง(ไส้หวาน) 15 บาท
ขนมเบื้อง(ไส้เค็ม) 15 บาท
ขนมเบื้อง ไซซ์ใหญ่ ชิ้นละ 75 บาท (มีขายทุกวัน)
ขนมเบื้อง ไซซ์เล็ก ชิ้นละ 5 บาท
(มีขายเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์)
📌 : ร้านสรินทร์ทิพย์ขนมเบื้องไทยตลาดพลู
ใต้สะพานตลาดพลู ระหว่างซอยเทอดไท 18 และ 20 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
⏰ : 09.00 - 22.00 น. (อังคาร - ศุกร์ )
09.00 - 00.00 น. (เสาร์ - จันทร์ )
☎️ : 084-920-3444 , 089-801-3477
🚗 : มีที่จอดรถ (ข้างทาง)
ติดตามร้านโดน เมนูเด็ด กับ Starvingtime🍴
📬 Fanpage : @Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่
📸 Instagram : bit.ly/st_instagram
📱 LINE@ : bit.ly/st_line
📩 Twitter : bit.ly/st_twitt
#Starvingtime #เรื่องกินเรื่องใหญ่
กิจการครอบครัว 在 那一年我們在曼谷 - 曼谷幫 Facebook 的最佳解答
#有人也愛泰式可麗餅嗎😍😍😍
泰國同事推薦這家在Talat Phlu開了112年的三代老店!
這餅皮看了真讓人受不了!讓小編整個老饕魂都來啦~~~
難怪聽說客人吃過都會再回訪👍🏻👍🏻👍🏻
📍交通方式:
Google定位:Kanombueang Thai Shop Taladplu Sarinthip(近BTS Talat Phlu站)
價格:5THB-75THB
營業時間 09.00 - 22.00 น. (週二-週五 )
09.00 - 00.00 น. (週六-週一 )
—————————————————————
|你有好多想問的問題?#直接FB私訊我們吧|
➡ http://bit.ly/買10月底前機加酒送價值1850深度一日遊
➡️ http://bit.ly/跟團朝聖塔魯島送泰簽省1200
➡️ http://bit.ly/自由行好幫手-多套深度一日遊
🌈追蹤曼谷幫IG:http://bit.ly/充滿小編泰國日常的IG
🌈訂閱Youtube:http://bit.ly/曼谷幫YouTube頻道
#STStory : เรื่องเล่าจานเด็ด EP.59
“ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู ”
แป้งแผ่นใหญ่ โบกไส้แน่น ขายมานาน กว่า 112 ปี
#สรินทร์ทิพย์ขนมเบื้องไทยตลาดพลู #ตลาดพลู
#STStoryEp59 #เรื่องเล่าจานเด็ด
⭐️ : 🌕🌕🌕🌕🌑(ร้านประจำมาย้ำบ่อยๆ)
👱♀🍑 : ขนมเบื้องร้านนี้ตกทอดมารุ่นสู่รุ่น
เป็นร้านที่ไม่มีสาขาที่ไหน กิจการครอบครัว
ขายมาตั้งแต่รุ่นของคุณยาย
"คุณสรินทร์ทิพย์ มีชูนุทร์" เป็นลูกหลานรุ่นที่ 3
ที่ดูแลกิจการต่อ
ใส่ใจในการทำวัตถุดิบต่างๆ เป็นพิเศษ
โดยทำเองทั้งหมดตามวัตถุดิบดั้งเดิม
แต่มีการปรับปริมาณวัตถุดิบบางอย่างเพื่อให้รสชาติดียิ่งขึ้น
🍞ตั้งแต่ตัวแป้ง ทำจากถั่วเขียว🥜
พออยู่บนเตาแล้ว จะได้กลิ่นหอม
กรอบกำลังดี ถึงเข้าตู้เย็นก็ยังกรอบ
🥚ตัวครีมหรือน้ำตาลเป็นแบบโบราณ
จะใช้แต่ไข่แดง จากไข่เป็ด
ราดน้ำตาลมะพร้าวลงไปผสม
ตามสูตรของทางร้าน
ตัวไข่ขาว สามารถมาขอได้ฟรี
ที่ร้านให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
🦐ไส้เค็ม ทำจากกุ้งไซซ์กำลังดี
เนื้อแน่น นำมาผัดกับมะพร้าว และปรุงรส
ขึ้นเตา โรยผักชีเพิ่ม กลมกล่อมเลยทีเดียว
😋ไส้หวาน โรยมะพร้าวแก้ว และฝอยทองทำเอง
ทานแล้วจะหวานกำลังดี
หอมตัวฝอยทองและมะพร้าว
💁♀หมวยเห็นบนเตาแล้วสะพรึงเลย
แผ่นใหญ่มาก ให้เครื่องเยอะ
โบกลงไปแบบสะใจมากๆ
ทานแล้วหวานพอดีๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหวานจนเลี่ยน
ไซซ์ปกติ ชิ้นละ 15 บาท หมวยว่าไม่แพงนะ
เทียบกับปริมาณ วัตถุดิบและรสชาติด้วย
เพราะทานแล้วมันเพลินจริงๆ นะ
ส่วนตัวหมวยจัดชิ้นพิเศษใหญ่มากมาจ้า เพื่อความสะใจ
💌ราคาโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้าจากทางร้าน
- ชุดใหญ่ 8 ชิ้น 100 บาท จากปกติ 7 ชิ้น 100 บาท
ถึงสิ้นเดือน เมษายน 61 นี้เท่านั้นนะจ๊ะ
💟เคล็ดลับวิธีทาน ถ้าทานไม่หมดจ้า
☝️ถ้าไว้ข้างนอก อยู่ได้ 2 อาทิตย์ แต่ระวังมดขึ้น
✌นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา เปิดถุงวางไว้ช่องปกติ
อยู่ได้ประมาณ 2 เดือน
🙆♀สำหรับที่ชอบทานขนมไทย ร้านนี้ก็ไม่ควรพลาด
มาลิ้มลองกันดู จะได้คุยกะคนอื่นรู้เรื่อง
ช่วงเย็นๆ คนจะเยอะ มาแล้วต้องใจเย็นๆรอกันหน่อยนะจ๊ะ
ขนมเบื้องไทยตลาดพลู l ตลาดพลู
💸 : ขนมเบื้อง(ไส้หวาน) 15 บาท
ขนมเบื้อง(ไส้เค็ม) 15 บาท
ขนมเบื้อง ไซซ์ใหญ่ ชิ้นละ 75 บาท (มีขายทุกวัน)
ขนมเบื้อง ไซซ์เล็ก ชิ้นละ 5 บาท
(มีขายเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์)
📌 : ร้านสรินทร์ทิพย์ขนมเบื้องไทยตลาดพลู
ใต้สะพานตลาดพลู ระหว่างซอยเทอดไท 18 และ 20 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
⏰ : 09.00 - 22.00 น. (อังคาร - ศุกร์ )
09.00 - 00.00 น. (เสาร์ - จันทร์ )
☎️ : 084-920-3444 , 089-801-3477
🚗 : มีที่จอดรถ (ข้างทาง)
ติดตามร้านโดน เมนูเด็ด กับ Starvingtime🍴
📬 Fanpage : @Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่
📸 Instagram : bit.ly/st_instagram
📱 LINE@ : bit.ly/st_line
📩 Twitter : bit.ly/st_twitt
#Starvingtime #เรื่องกินเรื่องใหญ่
กิจการครอบครัว 在 AFBE สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจครอบครัว - Facebook 的推薦與評價
หัวข้อของธรรมนูญครอบครัวที่ครอบคลุม ยุติธรรมกับทุกคน . เรื่องครอบครัวจะเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก เรื่องธุรกิจจะเป็นเรื่องของความถูก ... ... <看更多>