🔥 "มาสาย Java แล้วไปทำอะไรต่อได้บ้าง ? ต้องมีสกิลไหนที่เราต้องรู้บ้าง !?"
.
วันนี้แอดพาทุกคนมาดูสรุปแนวทาง ประเภททักษะที่ควรรู้สำหรับการประยุกต์งานภาษา Java กันนน <3
.
🌟 Basic เรื่องเริ่มต้นก่อนจะไปสายต่าง ๆ
พื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ การต่อยอดในด้านอื่นๆก็จะเป็นเรื่องง่าย
.
🚀 เรื่องที่ควรศึกษา
- Java Syntax เพื่อเรียนรู้กระบวนการเขียน ว่าคำสั่ง มีสโคป การใช้งานอย่างไร รวมถึงพื้นฐานการใช้งานเงื่อนไข การวนซ้ำ ฟังก์ชันต่าง ๆ
- Data Structure โครงสร้างข้อมูลเพื่อให้เราเข้าใจถึงกระบวนการจัดเก็บข้อมูลภายในระบบคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม
- Algorithm สำหรับเข้าใจขั้นตอนวิธีในการแก้ไขปัญหา และ ทักษะ Problem Solving
- OOP การพัฒนาโปรแกรมเชิงวัตถุที่เข้าใจองค์ประกอบของคลาส การสืบทอด การห่อหุ้ม รวมไปถึง Abstraction ที่จำเป็นในการเขียนโปรแกรมยุคใหม่
.
🌟 สายทำ Web Application
Java ก็ใช้ทำเว็บได้เหมือนกัน โดยจะถูกใช้ในส่วนของ Backend นั่นเอง โดยที่ Frontend สร้างขึ้นมาเหมือนเว็บทั่วๆไป
.
🚀 พื้นฐานการทำเว็บ
HTML
CSS
JS
HTTP
.
🚀 เครื่องมือ
Spring
JSP
Servlet
Apache Tomcat
Grails
🌟 สายใด ๆ ก็ตามที่ต้องใช้ Database
สิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยในการสร้างแอพพลิเคชั่นก็คือฐานข้อมูลนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ไปจนถึงข้อมูลในแอพลิเคชั่นทุกอย่าง ซึ่ง Java ก็สามารถใช้งานร่วมกับฐานข้อมูลหลากหลายชนิดได้ง่ายๆ ให้เราเลือกได้ตามความเหมาะสมของงาน
.
🚀 Relational Database
MySQL
Microsoft SQL
PostgreSQL
Oracle
.
🚀 Non-relational Database
MongoDB
Cassandra
Redis
Neo4j
🌟 นักพัฒนาสาย IoT
ถ้า IoT แปลว่าอินเทอร์เนตในทุกสิ่ง Java เองก็มีสิ่งที่ภาคภูมิใจที่เป็นเหมือนสโลแกนคือ write once, run everywhere แน่นอนว่า Java เองก็ทำ IoT ได้!! ซึ่งงานในด้านนี้ก็หลากหลายมากๆมีรูปแบบที่ไม่ตายตัว ถ้าใครสนใจต้องลองศึกษาตามเช็คลิสต์ด้านล่างนี้ดู
.
🚀 เรื่องที่ควรศึกษา
IoT architecture
Sensors / Devices
Network / Communication
API
Data Analysis
.
🌟 สายพัฒนาหลังบ้านด้วย Web Service
ในยุคที่ข้อมูลทุกอย่างถูกส่งผ่านกันด้วย API แล้ว Java จะไปน้อยหน้าได้ยังไงกันล่ะ
.
🚀 เรื่องที่ควรศึกษา
REST, SOAP
HTTP
.
🚀 เครื่องมือ
Spring
JAX-WS
JAX-RS
.
🌟 เก่าแต่เก๋าอยู่กับสาย Desktop App
ในด้านของ Desktop App หรือแอปพลิเคชั่นที่ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์ Java เองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยไม่แพ้ภาษาอื่นๆเลย ด้วยเครื่องมือที่จะช่วยให้การพัฒนาแอปเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป
.
🚀 เครื่องมือ
Eclipse Scout
Swing
JavaFX
Griffon
.
🌟 สายแอปบนมือถือพัฒนาลง Android
Java นั้นอยู่คู่กับ Android มาอย่างยาวนานแล้ว Android Studio เองก็เริ่มต้นมาจากภาษา Java ด้วยนะ
.
🚀 เครื่องมือ
Android Studio
Firebase
Jetpack
.
"ทั้งหมดนี้เป็นแค่ข้อมูลบางส่วนเท่านั้น จริง ๆ เครื่องมือบางตัวแม้ว่าจะเก่าไปหน่อย แต่ก็ยังมีใช้อยู่ในบริษัททั่วไป ซึ่งแอดบอกได้เลยว่าทั้งหมดนี้ ขึ้นกับการประยุกต์ใช้งานล้วนน ๆ"
.
"ไม่มีอะไรดีที่สุด ขึ้นกับว่าเราจะทำอะไรนั่นเอง <3"
.
#borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
「การสืบทอด」的推薦目錄:
- 關於การสืบทอด 在 BorntoDev Facebook 的最佳解答
- 關於การสืบทอด 在 Roundfinger Facebook 的最讚貼文
- 關於การสืบทอด 在 Kanok Ratwongsakul Fan Page Facebook 的最佳解答
- 關於การสืบทอด 在 shorts เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ก้าวไกลถอยให้เพื่อไทย 的評價
- 關於การสืบทอด 在 ความท้าทายของการสืบทอดกิจการครอบครัว สู่ยุคเจเนอเรชันที่ 4 的評價
- 關於การสืบทอด 在 แผนยุทธศาสตร์ชาติ เป็นกลไกอย่างหนึ่งในการสืบทอดอำนาจ 的評價
การสืบทอด 在 Roundfinger Facebook 的最讚貼文
ใครดูเรื่องนี้แล้ว ขอชวนอ่านชวนคุยกันครับ 🌼⚘🌱💐
Midsommar:
น้ำตาส่วนตัวกับครอบครัวของเรา
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
---
1
โดยส่วนตัวไม่คิดว่านี่คือหนังสยองขวัญ เขย่าขวัญ หรือกระตุกขวัญแต่อย่างใด หากคือหนังที่ตั้งคำถามกับวิถีชีวิตและค่านิยมสมัยใหม่ซึ่งมีภาพเละๆ ชวนให้หลับตาปี๋มาประกอบการเล่าเรื่อง
2
หนังทั้งเรื่องย้ำประเด็นความเป็นปัจเจกและความเป็นครอบครัว โดยเปรียบเทียบระหว่าง 'สังคมสมัยใหม่' ซึ่งอยู่แบบตัวใครตัวมันกับ 'สังคมแบบดั้งเดิม' ซึ่งอยู่แบบ 'ครอบครัวเดียวกัน' ทั้งชุมชน
3
ความเป็นประเทศในสแกนดิเนเวีย (สวีเดน) เมื่อถูกจับมาวางคู่กับสหรัฐอเมริกา (บ้านของหนุ่มสาวเหล่านี้) ยิ่งชวนคิดถึงสังคมรัฐสวัสดิการที่ให้ความสำคัญกับความเป็นพี่น้อง (ภราดรภาพ) เทียบกับสังคมที่เน้นความสำเร็จส่วนตัว (American Dream)
4
หนังเรื่องนี้ชวนให้คิดถึงตอนเดินทางไปทำรายการพื้นที่ชีวิตหลายทริป ในเดนมาร์กมีชุมชนทางเลือกแบบนี้เยอะมาก บางชุมชนจะกินข้างเย็นด้วยกันทุกวันทั้งชุมชน ผู้คนเป็นร้อย คิดถึงชาวอามิชที่แต่งตัวเหมือนกันทั้งชุมชน มีกิจกรรมร่วมกันทั้งชุมชน ไม่เน้นความปัจเจก ให้คุณค่ากับความเหมือนมากกว่าเอกลักษณ์ของแต่ละคน
5
หนังเปิดเรื่องให้เห็นอาการป่วยไข้ของสังคมสมัยใหม่โดยแสดงออกผ่านการสนทนาแบบไม่เห็นหน้ากัน (ออนไลน์) การแยกกันอยู่ของคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งจบลงด้วยการฆ่าตัวตายของน้องสาว โดยพ่วงพ่อแม่ตายตกตามกันไปด้วย เป็นความตายไปพร้อมกับความรู้สึกเศร้าซึม ตัวนางเอกเองก็รู้สึกโดดเดี่ยวและป่วยไข้เพราะไม่มีใคร 'ร่วมรู้สึก' กับเธอ
6
ฝั่งหนุ่มสาวอเมริกันในเรื่องมีชีวิตแบบตัวใครตัวมันอย่างยิ่ง กระทั่งแฟนกันก็ไม่เคยฟังกัน ไม่เคยเข้าถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง ขโมยหัวข้อทีสิสเพื่อนแบบไม่เกรงใจ ทะเลาะกันเพื่อแย่งข้อมูล อีกคนก็ไม่แคร์ว่าชุมชนจะนับถืออะไร ฉี่รดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ขอโทษ เป็นภาพของคนที่คิดแต่ 'ตัวกู' อย่างชัดเจน
7
ความโดดเดี่ยวและเห็นแก่ตัวเหล่านี้จึง contrast กับความเป็นชุมชนและการคิดถึงครอบครัวใหญ่ของชุมชนนางฟ้า (ขอเรียกแบบนี้) ที่สวีเดนอยู่ตลอดเรื่อง
8
ต้นเรื่อง เพื่อนบอกพระเอกทำนองว่า "ถ้าแฟนมึงป่วยขนาดนี้ มึงเลิกซะ แล้วไปมีคนใหม่ดีกว่า" แต่หนังค่อยๆ สะกิดให้คิดว่า ตกลงใครป่วยกันแน่ สังคมที่ไม่โอบรับความทุกข์ของคนใกล้ชิดต่างหากหรือเปล่าที่ป่วย
9
ภาพรถค่อยๆ ขับเข้าหา 'ชุมชนนางฟ้า' เป็นภาพกลับหัว คล้ายหนังบอกใบ้ให้เตรียมตัวเข้าสู่โลกที่ 'กลับด้าน' กับโลกสมัยใหม่ และการกลับด้านนี้เองที่ทำให้หนุ่มสาวเหล่านั้น (รวมถึงคนดู) รู้สึกมึนงง สับสน ช็อก และเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง
10
ความรู้สึกแรกเมื่อไปถึง ภาพในชุมชนสวยเหมือนภาพฝัน แต่เรากลับรู้สึกกลัว และแปลกหน้าอย่างมาก เพราะไม่ชินกับโลกที่ทุกคนแต่งตัวเหมือนกัน ใช้เวลาร่วมกัน รู้จักกันหมด มันไม่ใช่โลกที่เราใช้ชีวิตอยู่
...
11
โรงนอนเป็นภาพชัดที่สุดของความรู้สึกประหลาดนี้ ทุกคนนอนในที่เดียวกัน ไม่มี 'ความเป็นส่วนตัว' ซึ่งอันที่จริง การแยกห้องนอนเดี่ยวเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 พร้อมกับแนวคิด 'ความเป็นส่วนตัว' ที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับ 'ความเป็นครอบครัว' ที่อ่อนแอลงเรื่อยๆ
12
ทุกคนในชุมชนไม่รู้สึกโหยหาความเป็นส่วนตัว ทำทุกอย่าง 'ร่วมกัน' ทั้งกินทั้งนอนทั้งทำงาน ถ้าคนหัวโต๊ะยังไม่กิน ทุกคนก็จะไม่ได้กิน สังเกตว่าชาวอเมริกันในเรื่องจะแอบกินก่อนคนอื่นอยู่เรื่อยๆ (ไม่แคร์ชุมชน)
13
ชุมชนนางฟ้าเหมือนสังคมโบราณที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ ผู้นำการทำพิธีกรรมต่างๆ เป็นหญิง May Queen ซึ่งมีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายก็เป็นหญิง ซึ่งสังคมที่หญิงเป็นใหญ่มักเป็นสังคมที่ปักหลักอยู่กับที่ ทำกสิกรรม เคารพแผ่นดินเป็นแม่ บูชาพระแม่ธรณี ต่างจากสังคมนักรบบนหลังม้าที่เดินทางพิชิตดินแดนไปทั่ว ซึ่งชายเป็นใหญ่ บูชาเทพบนท้องฟ้า ในแง่นี้ May Queen ในฉากท้ายๆ ที่ถูกหุ้มห่อด้วยดอกไม้สะพรั่งจึงไม่ต่างจากแม่ธรณีที่อุดมสมบูรณ์ (แข็งแรงที่สุด เพราะเต้นอยู่เป็นคนสุดท้าย) เช่นกันกับภาพต้นหญ้าที่ขึ้นตามมือและเท้าอาจเป็นสัญญาณของความรู้สึกภายในที่เรียกร้องการกลับคือสู่วิถีธรรมชาติ
14
หญิงเป็นใหญ่ก็กลับหัวกับสังคมสมัยใหม่ เหมือนเรื่องปัจเจก เรื่องความเป็นส่วนตัว และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ 'ผู้ชาย' ในเรื่องที่เต็มไปด้วยความโลภ ชิงดีชิงเด่น ไม่เคารพจะพบจุดจบอย่างน่าอนาถ
15
ในสังคมหญิงเป็นใหญ่ ฝ่ายชายคือแรงงาน ต้องเคารพบูชาครัวเรือนของฝ่ายหญิง ในพิธีแต่งงานจะมีการไหว้ผีบรรพบุรุษของฝ่ายหญิงเพื่อขออยู่อาศัยด้วย ฉากการร่วมเพศในวิหารที่มีญาติผู้หญิงยืนล้อมวงจึงให้ความรู้สึกว่าผู้ชาย 'ตัวเล็ก' ไร้อำนาจ ตกอยู่ในสายตาของเพศหญิง
16
ในสังคมเช่นนี้ เรือนร่างของผู้หญิงมิใช่วัตถุของความปรารถนา หากคือพื้นที่ก่อกำเนิดชีวิตอันสวยงาม ฉากร่วมเพศครั้งแรกในวิหารแห่งนั้นจึงศักดิ์สิทธิ์ และปูพื้นด้วยดอกไม้ เหมือนแม่ธรณีให้กำเนิดชีวิต
17
ในชุมชนใกล้ชิดเป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้ การแต่งงานของคนสองคนจึงต้อง 'อยู่ในสายตา' ของผู้ใหญ่เสมอ มีการเลือกให้ อนุมัติ กระทั่งออกใบอนุญาตให้มีเซ็กซ์ครั้งแรกได้
18
น่าสนใจที่หนังอธิบายว่าชุมชนแห่งนี้ให้แต่งงานในเครือญาติ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดึงคนนอกมาเพิ่มความหลากหลายในสายพันธุ์ด้วย 'คนนอก' ที่เข้ามาเป็นเพียงคนที่ถูกเลือก คล้ายๆ เชลยศึกที่มาช่วยเพิ่มความหลากหลายเท่านั้น และหนังก็รอบคอบพอที่จะให้เห็นผลลัพธ์ของการแต่งงานในวงแคบแบบพี่น้อง โดยมีผู้พิการซึ่งเป็นคนสำคัญในชุมชนให้เห็น (น่าสนใจตรงวิธีให้ความสำคัญนี้ด้วย คือไม่ทอดทิ้ง)
19
อ.ธเนศ วงศ์ยานนาวาเคยอธิบายว่า การแต่งงานในหมู่พี่น้องด้วยกันเองทำไปเพื่อให้ทรัพยากรหมุนเวียนในวงศ์วาน ทำนอง 'เรือล่มในหนองทองจะไปไหน' การนำเอาคนนอกเข้ามาย่อมเพิ่มความเสี่ยงให้กับคนใน จึงต้องได้รับการตรวจสอบอย่างดี
20
สังคมนับสายแม่ คือนับแม่เป็นใหญ่นั้น ความเป็นพ่อและผัวพร้อมที่จะเป็นส่วนเกินหรือไม่จำเป็นเสมอ คือมีเซ็กซ์เสร็จก็ไม่มีคุณค่าอีกต่อไป พอเด็กๆ เกิดมา พี่ชายและน้องชายแม่จะดูแลแทนผู้ชายที่ทำให้แม่ท้อง เหมือนที่ Pelle บอกกับนางเอกว่าพ่อแม่ถูกเผาไฟ แต่เขาถูกเลี้ยงดูมาด้วย 'ครอบครัว' ซึ่งใหญ่มากๆ ทุกคนช่วยกันดูแล จึงไม่รู้สึกสูญเสียเหมือนนางเอก
...
21
สิ่งเหล่านี้ตั้งคำถามกับความโดดเดี่ยว ความแยกขาดจากชุมชนของผู้คนสมัยใหม่ว่า เวลาเราเจ็บปวด พังทลาย ป่วยไข้ เราไม่มีใครโอบอุ้มความรู้สึก จึงป่วยไข้จากความเดียวดายนั้น
22
ฉากที่แสดงถึง 'ความรู้สึกร่วม' ได้สุดยอดมากๆ คือสอง-สามฉากในช่วงท้ายๆ ตอนร่วมเพศที่ทุกคนที่ยืนล้อมอยู่รู้สึกไปด้วยกัน ตอนที่นางเอกร้องไห้แล้วผู้หญิงทุกคนร่วมร้องไห้ไปด้วยราวกับก๊อปปี้แอคชั่นกัน และฉากสุดท้ายที่ทุกคนรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกเผาไปพร้อมๆ กับคนในครอบครัว
23
ฉากเหล่านี้ทำให้รู้สึกขนลุกถึงความรู้สึก 'หนึ่งเดียวกัน' ที่สัมผัสได้ว่า เธอเจ็บ ฉันก็เจ็บ เธอรู้สึกเสียวซ่าน ฉันก็อยู่ข้างๆ เธอและรู้สึกไปกับเธอ โดยเฉพาะฉากเซ็กซ์ครั้งแรกนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างมาก การมีเซ็กซ์ต่อหน้าสายตาของญาติผู้ใหญ่ที่โอบอุ้มความรู้สึกนั้น แม้รู้สึกประหลาดแต่ก็สวยงามไปอีกแบบ
24
แนวคิดเรื่อง 'วัฏจักร' หรือการมองชีวิตเป็นการหมุนวนก็น่าสนใจ ชอบตรรกะที่หนังใช้อธิบายพิธีกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสมดุลในชุมชน โดยรวมแล้วเป็นวิธีการควบคุมประชากรให้อยู่ในจำนวนที่ไม่ล้นเกิน เมื่อเกิดหนึ่งก็ตายหนึ่ง คนที่เกิดมาใหม่จะใช้ชื่อของคนที่เพิ่งตายไป นี่คือแนวคิดของสังคมที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ได้คิดว่าจะต้องอยู่ไปตลอดกาล หรือเพิ่มจำนวนเพื่อรุกรานธรรมชาติไปเรื่อยๆ
25
แต่สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นเรื่องน่าตกใจของคนสมัยใหม่ 'ความตาย' เป็นเรื่องสยองขวัญ ทั้งที่ในชุมชนมองความตายเป็นเรื่องวงจรชีวิตธรรมดา กระทั่งเห็นความตายตามอายุขัยเป็นความสง่างามและกล้าหาญ
26
ผู้กำกับและเขียนบทน่าจะมีความสนใจในศาสตร์มานุษยวิทยา จึงนำวิถีดั้งเดิมมาวางเทียบวิถีสมัยใหม่เพื่อเสียดสีให้เกิดคำถามใหม่ๆ ขึ้นในหัวคนดูเกี่ยวกับความเป็นชุมชนและความเป็นปัจเจก
27
รอยยิ้มของนางเอกในช่วงท้ายจึงคลี่คลายความรู้สึกโดดเดี่ยวด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งคือเธอได้ปล่อยโฮออกมาให้กับความสูญเสียพร้อมกับ 'ครอบครัว' ทั้งชุมชน ไม่ต้องเก็บงำซ่อนเร้น แกล้งทำเป็น 'ฉันโอเค' อีกต่อไป, สองคือเธอมิได้รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป เพราะมีพี่น้องมากมายรายล้อม อย่างที่มีคนบอกเธอว่า "เราเป็นครอบครัวกันแล้ว", สามคือชุมชนนางฟ้าค่อยซึมซับแนวความคิดและความรู้สึกว่า การตายก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรหมุนวนของชีวิตเข้ามาในใจ กระทั่งในที่สุดเธอจึงกลายเป็นคนใหม่ด้วยวัฒนธรรมของ 'อีกโลกหนึ่ง'
28
หากเราดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกสยองหรือแปลกแยกจนขนลุก ยิ่งชัดเจนว่า วิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้เรารู้สึกกับค่านิยมเดิมๆ ว่า 'หลุดโลก' ซึ่งหนังเองก็ขับเน้นความรู้สึกเหล่านี้ด้วยงานภาพและเสียงได้อย่างน่าชื่นชม
29
สุดท้ายแล้วหนังโยนคำถามใส่เราว่า หากคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชุมชนนางฟ้าเป็นเรื่องสยองขวัญ แล้วชีวิตในโลกสมัยใหม่ที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว เห็นแก่ตัว แก่งแย่งชิงดีกัน ไร้ความใส่ใจและโอบอุ้มความรู้สึกของกันและกัน มุ่งแต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือเคลื่อนไปข้างหน้าเหล่านี้ ไม่น่า 'สยองขวัญ' กว่าหรือ
30
สุดท้ายแล้ว น้ำตาของเรามันควรเป็นแค่ของเราคนเดียวจริงๆ หรือ หรือแท้จริงแล้วเราควรร้องไห้ไปด้วยกัน เจ็บปวดไปด้วยกัน โดยนับเอาความทุกข์ของคนในสังคมเป็นความทุกข์ของเราด้วย มิฉะนั้น สังคมจะเต็มไปด้วยความป่วยไข้ส่วนตัว ซึ่งพร้อมจะระเบิดออกมาตลอดเวลา จะว่าไปนี่คือความคิดของสังคมรัฐสวัสดิการ ซึ่งแตกต่างจากสังคมตลาดเสรีสุดขั้วที่เน้นการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตาย กระทั่งความเจ็บปวดของคนอื่นเป็นชัยชนะของเรา หรือเราไม่มีเวลาให้กับความเจ็บปวดของคนอื่น เพราะมันเสียเวลาที่จะไขว่คว้าความสำเร็จของตัวเอง
น้ำตาตอนต้นเรื่องและท้ายเรื่องของนางเอกจึงร้องออกมาด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
'น้ำตาโดดเดี่ยว' กับ 'น้ำตาท่ามกลางครอบครัว'
ซึ่งคำว่า 'ครอบครัว' มิได้จำกัดความแค่พ่อแม่พี่น้อง หากหมายถึง 'สังคม' ที่พร้อมจะรองรับความทุกข์โศกของคนใน 'ครอบครัว' เดียวกัน
---
นี่คือหนังดีแห่งปี มีโอกาสก็ไม่น่าพลาดครับ
แต่แน่นอนครับ ลางเนื้อชอบลางยา
บางคนอาจชอบมาก บางคนอาจอี๋มากก็ได้ 😁
***บางส่วนในข้อเขียนชิ้นนี้ได้ความคิดและข้อมูลมาจากการอ่านบทความ 'การสืบทอด' โดย อ.ธเนศ วงศ์ยานนาวา และหนังสือ 'เพศในเขาวงกต' โดย ดร.นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ
การสืบทอด 在 Kanok Ratwongsakul Fan Page Facebook 的最佳解答
คืนนี้ Lineกนก นำเสนอเรื่องราวแห่ง "สยามสแควร์" พูดถึงย่านนี้แล้ว ผมคิดถึง "โรงหนังสกาลา" มากที่สุด..ความทรงจำต่างๆไหลพรั่งพรู
นั่งรถเมล์สาย 15 จากธรรมศาสตร์ไปดูหนังที่สยามนับไม่ถ้วน เลือกที่นั่งแถว K ตัวแรก เพราะชื่อ Kanok เมื่อก่อนที่นั่งโซนนี้ 30 บาท แพงสุด 60 บาท
ผ่านหน้าประตู ให้คุณพี่สูทสีเหลือง ฉีกบัตร พอเข้าห้องน้ำเรียบร้อย แล้วซื้อน้ำโคล่า กับเค้กเปลือยก้อนละ 5 บาท กินประทังความหิว พอเพลงสรรเสริญมาก็กินเสร็จพอดี พร้อมดูหนังให้ฉ่ำอุรา
สกาลา เป็นโรงที่มีระบบเสียงดอลบี้ สเตอริโอ ของจริงก่อนใคร ที่บอกว่าของจริง เพราะเมื่อก่อนระบบนี้แพงมาก ไม่ค่อยมีโรงไหนลงทุน
และถ้าหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉาย เช่น The Last Emperor, Dances with Wolves, Rambo .. พอฉายหนังตัวอย่าง โฆษณา (ไม่มากเท่าทุกวันนี้) เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ ผ้าม่านจะปิดจอ แล้วเปิดเพลงสกอร์เพราะๆของหนังเรื่องนั้นๆ ให้ฟังเป็นการโหมโรง...
สัก 5 นาที แล้วหรี่เสียงเพลง..เปิดม่าน.. ฉายหนังสุดยิ่งใหญ่เต็มจอยักษ์ พูดได้ว่า บิ๊วอารมณ์ให้พร้อมเพื่ออินสุดๆกับหนังที่กำลังจะฉาย
ผมดู..ฉลุย คนเลี้ยงช้าง นวลฉวี จูราสสิค พาร์ค ภาคแรก ฯลฯ ที่โรงหนังสยาม
ผมดู..โหดเลวดี วิ่งสู้ฟัด คนเหล็ก 2029 ..ที่โรงหนังลิโด้ และดูมากที่สุดก็ที่ ..สกาลา
เมื่อก่อนตรงโรงหนังสกาลา เป็นลานไอซ์สเก๊ต ตรงข้าม เป็นร้านมิสเตอร์โดนัท สาขาแรก! ถัดมาอีกซอยนึง เป็นร้านนิวไลท์ คอฟฟี่เฮ้าส์ ดารารุ่นเก๋าหลายท่านมานั่งประจำ อาไพโรจน์ ใจสิงห์ นี่เห็นบ่อย
ถ้า.."สกาลา" เป็นอะไรไป! ก็คงหมดกัน หลังจาก "ลิโด้" เกิดไฟไหม้ปี 2536 แล้ว "สยาม" ถูกเผาปี 2553 ก็เหลือโรงสแตนอโลน ที่ยังทำหน้าที่ฉายหนังอยู่เพียงโรงเดียวในประเทศไทย และเป็นโรงที่สวยที่สุดในประเทศ!
ฟิลลิป แจ็บลอน Philip Jablon เจ้าของเพจ The Southeast Asia Movie Theater Project หนุ่มอเมริกันผู้ตระเวนถ่ายภาพโรงภาพยนตร์สแตนด์อโลนมาเกือบสามร้อยแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยให้สัมภาษณ์ Lineกนก ว่า...
“ถ้าพูดถึงความสวยงาม สกาลายังเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แน่นอน มันสภาพดี ใหญ่โต สถาปัตยกรรมสวยงาม น่าชื่นชม ทุกคนที่มาที่นี่เขาก็คงคิดเหมือนกัน ไม่เคยได้ยินคนบอกว่าไม่ชอบ ทุกคนรักสกาลา ชาวต่างชาติทุกคนที่ผมพามาที่นี่เขาร้อง ว้าว! แล้วบอกว่าสวยมาก ชอบมาก มีคนอเมริกันเจอที่นี่แล้วเขาบอกผมว่านี่เป็นสถานที่ที่เขาชอบมากที่สุดในกรุงเทพฯ ถ้าวันหนึ่งสกาลาถูกทุบทิ้ง พม่าจะมีโรงหนังสแตนด์อโลนที่สวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน”
อยากให้เจ้าของพื้นที่โปรดไตร่ตรอง และคิดให้จงหนัก พยายามเข้าถึงคำว่า "ตำนาน" และ "การสืบทอด" นอกจากตัวเลขเม็ดเงิน หรือเขาวัดผลงาน (บอร์ดแต่ละชุด) ที่การทำรายได้?
ปากบอกว่า ไม่ทุบๆ แต่ถ้าค่าเช่ามันแพงหฤโหด ก็ไม่มีใครทานทนได้
ต่อไปภายภาคหน้า "คนที่ทำจนต้องรื้อ" กับ "คนที่ทำให้ถูกทุบ" ลูกหลานเรา..เขาจะคิดถึงคนสองกลุ่มนี้อย่างไร
พูดถึง "ลิโด - สกาลา" มันไม่ใช่เรื่องสถานที่ หรือการดูหนังอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องผู้คนรายรอบเรา เช่น พนักงานขายบัตร ที่ยังใช้มือเขียน คุณลุงตรวจตั๋วชุดเหลือง หรือคนที่เราเคยไปดูด้วย...ทั้งหลายทั้งมวลนั้น...
สกาลา - ลิโด เป็นมากกว่าโรงหนังสแตนอโลน
คืนนี้ติดตามชมให้ได้นะครับ 2 ทุ่ม เนชั่นทีวี 22
รายการLineกนก NationTV 22 ข่าวข้น คนเนชั่น ตั่วตั่วเปา
การสืบทอด 在 ความท้าทายของการสืบทอดกิจการครอบครัว สู่ยุคเจเนอเรชันที่ 4 的推薦與評價
ความท้าทายของ การสืบทอด กิจการครอบครัว สู่ยุคเจเนอเรชันที่ 4 ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้ การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe @Longtunman ... ... <看更多>
การสืบทอด 在 แผนยุทธศาสตร์ชาติ เป็นกลไกอย่างหนึ่งในการสืบทอดอำนาจ 的推薦與評價
เป็นกลไกอย่างหนึ่งใน การสืบทอด อำนาจ. จาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายรายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ... ... <看更多>
การสืบทอด 在 shorts เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ ก้าวไกลถอยให้เพื่อไทย 的推薦與評價
เพื่อหยุดยั้ง การสืบทอด อำนาจ พรรคก้าวไกลเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล 8 ... ... <看更多>