นวัตกรรม ของ Samsung กับตำแหน่งผู้นำที่ยาวนานในตลาดสมาร์ตโฟน /โดย ลงทุนแมน
Samsung เป็นหนึ่งในบริษัทแถวหน้า ที่สามารถเข้ามาตีตลาดและแย่งชิงเค้กเจ้าตลาดในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ได้
เริ่มตั้งแต่ทีวี ที่เริ่มเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1969 ตามหลังผู้นำตลาดอยู่หลายปี จนสามารถขึ้นแท่นผู้นำตลาดทีวีโลกได้สำเร็จมาตั้งแต่ปี 2006 รวมระยะเวลา 14 ปี
ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ต่อมาก็คือโทรศัพท์มือถือ ที่เริ่มตีตลาดนี้ครั้งแรก เมื่อปี 1991
และเปิดตัวโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android ขึ้นครั้งแรก ในปี 2009 ด้วยรุ่น Samsung GT-I7500 Galaxy ซึ่งเป็นรุ่นแรกของตระกูล Galaxy
แต่ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมานั้น การแข่งขันในวงการสมาร์ตโฟนก็ดุเดือด มีคู่แข่งหลายเจ้าที่ผลัดกันครอบครองตลาดในช่วงที่ผ่านมา
แล้ว Samsung ก้าวมาเป็นผู้นำได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรามาดูผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนเมื่อ 10 ปีที่แล้วกัน
ปี 2009 มีผู้ครองตลาดคือ Nokia, Blackberry และ Apple
ปี 2020 มีผู้ครองตลาดคือ Samsung, Huawei และ Apple
โดย Samsung นั้น สามารถเอาชนะ Nokia ได้ครั้งแรกเมื่อปี 2012 และขึ้นแท่น Top 3 มาตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญของ โทรศัพท์ยี่ห้อ Samsung ก็คือการเปิดตัว สมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S เมื่อปี 2010 และตามมาด้วย Galaxy Note ในปี 2011 ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลา 2 ปี
จากสัดส่วนตลาด 19% ในปี 2011 เพิ่มมาเป็น 30% ในปี 2012 อ้างอิงจากเว็บไซต์ IDC
ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 นั้น ตลาดสมาร์ตโฟนกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
แต่ละแบรนด์ต่างเน้นการพัฒนาสมาร์ตโฟน ที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปากกาอีกต่อไป
เมื่อ Samsung เปิดตัว Galaxy Note จึงทำให้เป็นเรื่องที่แปลกใหม่และค่อนข้างสวนกระแสกับตลาดสมาร์ตโฟนในเวลานั้นเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนมองว่ามันเป็นสมาร์ตโฟนที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า หลังจากที่เปิดตัวไป 10 เดือน
Samsung Galaxy Note สามารถจำหน่ายไปได้ทั้งหมด 10 ล้านเครื่องทั่วโลก
เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของสมาร์ตโฟนพรีเมียม ที่มีปากกาในเวลานั้น
ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ Samsung ในปัจจุบันที่พบว่ากว่า 80% ของผู้ซื้อตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เพราะต้องการปากกา
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ Samsung เองก็ยังคงถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับราคาถูก ไปจนถึงระดับพรีเมียม
ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้จะมีคู่แข่งใหม่ๆ เข้ามามาก แต่ Samsung ก็ยังสามารถปรับตัว ยืนหยัดในตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนได้อยู่
แล้ว Samsung ทำได้อย่างไร?
จุดเด่นของสมาร์ตโฟน Samsung อย่างแรกเลยคือเรื่องของนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาตามความต้องการของผู้บริโภค จากการเรียนรู้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไร อะไรคือ Pain-point และออกแบบสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง ให้ผู้บริโภครู้ว่า Samsung สามารถแก้ปัญหาให้ได้
อย่างต่อมา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของแบรนด์ Samsung ก็คือ คุณภาพหน้าจอ
โดย Samsung ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ของจอแบบ AMOLED ในสมาร์ตโฟน อย่างเช่นหน้าจอแบบ SUPER AMOLED ที่มีการฝังฟังก์ชันการสัมผัสเข้าไปที่ตัวหน้าจอเลย โดยไม่ต้องแยกชั้นเหมือนแต่ก่อน ซึ่งมีการใช้ครั้งแรกในรุ่น Galaxy S ll และหลังจากนั้น Samsung ยังทยอยพัฒนาหน้าจอออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเรียกได้ว่าหลายคนชอบมือถือแบรนด์นี้เพราะหน้าจอสวยกว่าแบรนด์อื่น
และอย่างสุดท้ายก็คือ Samsung เป็นแบรนด์ที่ออกผลิตภัณฑ์มาหลากหลายรุ่น ให้ลูกค้ามีตัวเลือกตามความสนใจ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม
ไล่ตั้งแต่ รุ่นราคาถูกอย่างตระกูล Galaxy A Series 10 ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุน้อย มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้สมาร์ตโฟนที่มีฟังก์ชันสมาร์ตโฟนเบื้องต้นครบ
หรือตระกูลพรีเมียมแบบ Galaxy S ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพ ทันสมัย และดีไซน์ที่สวยงาม
หรือตระกูลพับได้อย่าง Galaxy Fold และ Galaxy Z Flip ที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม Early Adopters ที่ชื่นชอบนวัตกรรมและแฟชั่น
หรืออยากได้สมาร์ตโฟนที่เหมาะกับการทำงาน อย่าง Galaxy Note ที่สามารถทำให้การทำงาน หรือการจดบันทึก วาดเขียนต่างๆ นั้นง่ายขึ้น
แล้วปัจจุบัน Samsung มีอะไรที่แตกต่างจากคู่แข่งบ้าง?
ในตอนนี้อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ Samsung ก็คือ การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก เช่น Google, Spotify และ Microsoft
ยกตัวอย่าง ความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานในสมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S และ Galaxy Note ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทันที โดยใช้แอปพลิเคชั่น
หรืออย่างล่าสุดในรุ่น Galaxy Note 20 ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็มีการพัฒนาตัวปากกา ให้มีความรู้สึกเหมือนจดด้วยปากกาจริงมากขึ้น ที่หากเปรียบเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน ก็ดูเหมือนว่า Samsung จะพัฒนาไปมาก เช่น ฟังก์ชันเปลี่ยนลายมือเป็นตัวอักษร จัดลายมือที่เอียงให้ตรง ใช้ควบคุมพรีเซ้นต์ กล้อง ไปจนถึงอัดเสียงไปพร้อมกับการจดบันทึก
ทำให้ Samsung ถือเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำสมาร์ตโฟนประเภทมีปากกาอีกด้วย
แล้ว Samsung ทำรายได้จาก สมาร์ตโฟนมากแค่ไหน?
ในปี 2019 ทำรายได้ไปทั้งหมด 2.8 ล้านล้านบาท
ซึ่งถือเป็นหมวดสินค้าที่ทำรายได้ให้กับ Samsung Electronics มากที่สุด หรือคิดเป็น 41.6% ของรายได้ทั้งหมด
จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ Samsung จะไม่ได้เข้ามาในตลาดเป็นคนแรก
แต่ก็ค่อยๆ พัฒนาตนเอง จนสามารถทำให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนโลกได้
ซึ่งก็น่าติดตามต่อไปว่า Samsung จะนำเอากลยุทธ์อะไรออกมาเพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่มีมายาวนานนี้ไว้
แต่ที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่ากรณีศึกษาของ Samsung น่าสนใจ
เพราะ Samsung สามารถแข่งกับตัวเองให้พัฒนาขึ้นอยู่เสมอ จนรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้จนถึงปัจจุบัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/AMOLED
-https://www.samsung.com/global/galaxy/what-is/super-amoled/
-https://images.samsung.com/is/content/samsung/p5/global/ir/docs/2019_Business_Report.pdf
-https://www.statista.com/statistics/271496/global-market-share-held-by-smartphone-vendors-since-4th-quarter-2009/
-https://www.industryweek.com/technology-and-iiot/article/21957331/samsung-overtakes-nokia-to-become-the-worlds-biggest-mobile-seller#:~:text=Technology%20and%20IIoT-,Samsung%20Overtakes%20Nokia%20to%20Become%20the%20World's%20Biggest%20Mobile%20Seller,to%20the%20rising%20smartphone%20giant.&text=After%2014%20years%20at%20the,world%20leader%20in%20mobile%20sales.
-https://mobiforge.com/news-comment/why-samsung-number-one-handsetsmartphone-vendor-why-your-mobile-strategy-should-emulate-samsung
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過50萬的網紅MachSakai Airsoft Japan,也在其Youtube影片中提到,気なったエアガン・銃関係のニュースです。 マック堺のyoutubeチャンネル登録 http://www.youtube.com/subscription_center?add_user=machsakai 記事のリンクは Wilson Combat Recon Tactical .458 ...
vendor wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
SAP อดีตลูกจ้าง IBM ที่ตอนนี้ใหญ่กว่านายจ้าง /โดย ลงทุนแมน
หากเราเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง
แล้วโปรเจกต์ที่ทำอยู่ ถูกเจ้านายบอกให้ยกเลิกกะทันหัน
เราจะตัดสินใจอย่างไร?
วันนี้ เรามาดูตัวอย่างของอดีตลูกจ้างของบริษัท IBM
ที่เคยเผชิญปัญหานี้ แต่พวกเขากลับเปลี่ยนให้มันเป็นโอกาสทางธุรกิจ
โอกาสทางธุรกิจคือการก่อตั้งบริษัท SAP
ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 5.2 ล้านล้านบาท
เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
แถมยังใหญ่กว่า IBM บริษัทนายจ้างในอดีต
ที่มีมูลค่าบริษัท 3.5 ล้านล้านบาท
แล้วอดีตพนักงาน IBM เห็นโอกาสอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องราวของ SAP เกิดขึ้นกับวิศวกรชาวเยอรมัน 5 คน
คือคุณ Dietmar Hopp, Hans-Werner Hector, Hasso Plattner, Klaus Tschira
และ Claus Wellenreuther ในปี ค.ศ. 1971 หรือ 49 ปีก่อน
พวกเขาเป็นพนักงานของบริษัท IBM สาขาประเทศเยอรมนีที่ได้รับมอบหมาย
ให้ออกแบบ และพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรสำหรับลูกค้ารายหนึ่งของบริษัท
แต่อยู่ดีๆ ทางบริษัท IBM ก็ได้ยกเลิกโปรเจกต์ดังกล่าวกะทันหัน
และแจ้งกับวิศวกรทั้ง 5 คนว่างานที่พวกเขาทำอยู่ “ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
หากเราเป็นหนึ่งในวิศวกรที่อยู่ในสถานการณ์นั้น
เราจะตัดสินใจกันอย่างไร?
วิศวกรทั้ง 5 คนนี้ตัดสินใจลาออก และร่วมกันก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี ค.ศ. 1972
บริษัทนี้ชื่อว่า SAP ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร เพราะพวกเขามองว่าธุรกิจนี้จะกลายเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
ในปีนั้น SAP ได้จ้างพนักงานทั้งหมด 9 คน และเริ่มต้นพัฒนาระบบเก็บข้อมูลทางบัญชี
นอกจากนั้น บริษัทก็ได้ต่อยอดระบบบัญชีไปยังซอฟต์แวร์สำหรับวางแผนข้อมูลและทรัพยากร
ทางธุรกิจขององค์กร หรือที่เรียกกันว่า Enterprise Resource Planning (ERP)
แล้วระบบบัญชี ที่เป็นระบบ ERP
มันสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดไหน?
เราลองมาดูตัวอย่างง่ายๆ เช่น..
บริษัท Adidas ส่งคำสั่งผลิตรองเท้ารุ่นใหม่
หลังจากโรงงานผลิตเสร็จแล้ว จึงส่งสินค้าไปเก็บไว้ที่คลังสินค้า
ขั้นตอนสุดท้าย หากมีการสั่งของ
ก็จะทำการจัดส่งสินค้าให้กับผู้จัดจำหน่าย
หากธุรกิจเรามีขนาดใหญ่
การที่เราจะติดต่อระหว่างโรงงานผลิต คลังสินค้า ฝ่ายขาย บัญชี ที่อยู่ต่างสถานที่กันนับว่ายากแล้ว
แต่การที่เราจะอัปเดตข้อมูลให้ตรงกัน ไม่คลาดเคลื่อนถือเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก
ปัญหาสมัยก่อนก็คือ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ถ้าเราขายสินค้าออกจากคลังไปแล้ว
แล้วรายได้ที่เราบันทึก จะตรงกับฝั่งบัญชีหรือไม่?
ถ้าเราไม่บันทึก ก็จะแปลว่าสินค้าหายไป แต่เราไม่มีรายได้
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ SAP มองเป็นโอกาสที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรเพื่อให้บริษัทต่างๆ นำไปประยุกต์ใช้ และวางแผนข้อมูลทั้งหมดของบริษัทให้อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
ซอฟต์แวร์องค์กรที่ SAP คิดค้นจะทำให้
เมื่อมีคำสั่งการผลิต โรงงานรู้ทันที
เมื่อโรงงานส่งของไปแล้ว คลังรู้ทันที
เมื่อคลังจำหน่ายสินค้าไปแล้ว ฝ่ายขายรู้ทันที
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์
ซึ่งจะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ทันต่อเหตุการณ์มากขึ้น
และประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจก็จะมากขึ้นตามเช่นกัน
ด้วยคอนเซ็ปต์นี้ จึงทำให้ SAP เป็นบริษัทที่มีผู้ใช้บริการทั่วโลกให้ความสนใจ และเติบโตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
แล้วผลประกอบการตอนนี้เป็นอย่างไร?
บริษัท SAP
ปี 2017 รายได้ 8.4 แสนล้านบาท กำไร 1.4 แสนล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 8.7 แสนล้านบาท กำไร 1.4 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 9.7 แสนล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท
โดยแบ่งโครงสร้างรายได้ตามแต่ละภูมิภาคมาจาก
โซนเอเชีย 15%
โซนอเมริกา 41%
โซนยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 44%
ซึ่งบริษัทก็มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรชั้นนำมากมาย
โดยเฉพาะองค์กรในประเทศเยอรมนีที่ทุกๆ 100 บริษัท
จะใช้ซอฟต์แวร์ของ SAP รันระบบหลังบ้านอยู่กว่า 80 บริษัท
ตอนนี้ SAP เริ่มปรับโมเดลรายได้จากการขายสิทธิ์ไปเป็นบริการบนเทคโนโลยีคลาวด์ ทำให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดเล็กลงได้มากขึ้น จากเดิมที่มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่
ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัท SAP มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
จนกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
มีมูลค่า 5.2 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่านายจ้างอย่าง IBM
ที่พวกเขาลาออกมาเมื่อ 49 ปีก่อน..
แล้วเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรเรา?
หากเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันมีคุณค่า
เราก็ต้องไม่ย่อท้อ ไม่ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคอะไรก็ตาม
เหมือนอย่างวิศวกรผู้ก่อตั้งบริษัท SAP
ที่แม้ว่าจะโดนยกเลิกโปรเจกต์ไป แต่พวกเขาก็ยังเชื่อมั่น
เชื่อมั่นถึงขนาดที่ตัดสินใจลาออก
และร่วมกันก่อตั้งบริษัทเพื่อสานต่อโปรเจกต์ต่อไป
จนโปรเจกต์เล็กๆ ที่ไม่มีใครเห็นค่าในตอนนั้น กลับมีมูลค่าสูงกว่าบริษัทนายจ้างไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.featuredcustomers.com/vendor/sap-hana/customers
-https://www.readycontacts.com/target-account-profiling/sap/
-http://www.fundinguniverse.com/company-histories/sap-ag-history/
-https://en.wikipedia.org/wiki/SAP_SE
vendor wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ธุรกิจวิทยุ ยังกำไรอยู่ไหม? / โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้
เราได้เห็น ธุรกิจทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ได้รับความนิยมน้อยลง บางรายถึงขนาดปิดตัวไปแล้ว
เพราะไม่สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ ที่ต้องการความรวดเร็วในข้อมูล และสินค้าแบบเฉพาะเจาะจงตามความชอบตนเอง
...Continue ReadingIs the radio business still profitable? / by investing man
These days.
We've seen businesses, TV, newspapers, magazines, less popular, some of them are closed.
Because this generation of consumer behavior can't satisfy this generation that wants to speed in information and products according to their own preference.
Another media being tested is "Radio Wave"
Radio has been a high-influential media since the past as it can reach consumers in a wide range of times.
In the past, we listened to radio through the device. There was a DJ to choose beautiful songs.
But now technology has changed people to follow music through other media, especially on smartphones because they can choose what they like, such as youtube or joox, etc. Resulting in the popularity in radio recession.
Polls found
Year 2558
The proportion of listening to music via SMARTPHONE IS ONLY 2 % compared to listening via Radio Receiver 60 %
But in 2559
Listening through smartphone has increased to 58 % against listening via radio receiver reduced to 31 %
Can see that radio listeners have dropped half in the last few years.
The situation is clearly a result of advertising money in radio media.
Year 2558 at 5,625 million baht (11 % decrease)
Year 2559 at 5,262 million baht (reduced 7%)
Year 2560 at 4,476 million baht (15 % decrease)
When the industry overview is down, how much does the radio wave business companies earn?
Did you know that radio waves are known to be the brand under the management of all major media companies, whether
Cool Fahrenheit station
Frequency 93.0 megahz
First aired in 2543, currently run by KOOL LIZUM CO LTD. Which is in rs. The following results are as follows.
Year 2557 Income 454 million baht. Profit 159 million baht.
Year 2558 Income 461 million baht. Profit 183 million baht.
Year 2559 Income 426 million baht. Profit 149 million baht.
Virgin Hitz station
Frequency 95.5 megahz
First aired in 2545, currently run by u & Icorporation Co Ltd. and has BEC-Teroradio Co Ltd. Channel 3 as a vendor of advertising time and consulting in effect. Operations are as follows.
Year 2557
U & I income 62 million baht. Loss of 6 million baht.
Bec-Teroradio Income 294 million baht. Loss of 37 million baht.
Year 2558
U & I income 60 million baht. Loss of 6 million baht.
Bec-Teroradio Income 294 million baht. Loss of 50 million baht.
Year 2559
U & I income 63 million baht. Loss of 6 million baht.
Bec-Teroradio Income 221 million baht. Loss of 51 million baht.
Seed FM station
Frequency 97.5 megahz
First broadcast in 2548, run by seed m COT CO LTD. Channel 9, but now the wave has closed after a loss of liquidity problems. Mcot cancel the contract and take the wave to manage it.
Year 2557 Income 103 million baht. Loss of 33 million baht.
Year 2558 Income 85 million baht. Loss of 37 million baht.
Year 2559 Income 43 million baht. Loss of 48 million baht.
It can be seen that radio operators are likely for lower income and profits. It's a continuous loss.
Because in addition to the overview of radio media business, there is a lot of competition within the industry because there are many waves and each has its own listeners base.
So how does radio wave company adapt?
There is no music in the nature. It's a person who loves it.
In fact, listening to music never changes. Everyone always has music in their heart. Only people change the listening behavior.
Therefore, radio media has adjusted to digital cuddle platforms, offering online shows in many channels such as their own website, apps and Facebook Fanpage, which make new income from online ads.
In the past, we have seen Grammy launch chill online, which I used to be offline radio wave. Only changed to broadcast online.
Rs has rebranded the wave by cutting the number 93 to just cool Fahrenheit to match the listener's behavior that doesn't stick to air channels, including launching coolism applications on mobile.
Channel 3 also turned to launch the BEC-Tero Radio application that gathered online radio broadcasting such as virgin hitz and highlight coverage.
The Radio show still has a unique advantage. There are people who choose beautiful songs for customers. No need to waste time to find their own music, including the music that open, it's a variety of time.
In addition, using online media also makes the list format.
Exotic content presentations, interacting with listeners and quickly meet demand.
A lesson from the radio wave business teaches you that..
Despite new technology that may come to steal market share, it's not always scary.
Just adapt, stay with it. Take advantage of it. We may find a new way to continue walking forward.
Because in every crisis, there is always a chance that lurks.
But to succeed or not, only time proves..
----------------------
Ready to stick radar for investment to win Thai future year 2018
Gathering experts and National Investors reveals the direction of investment trends in digital transformation era.
22 February 2561 at 12.00 onwards
Cinema, Siam Square, SOI 1
Register for free event today!! At http://go.eventpop.me/STOCKRADARS
----------------------
Reference
-http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/640781
-https://www.prachachat.net/marketing/news-3611
-https://positioningmag.com/1153376
- Department of business development
-https://th.wikipedia.org/wiki/คูลฟาเรนไฮต์_93
-https://www.posttoday.com/biz/news/466843
-https://th.wikipedia.org/wiki/อีเอฟเอ็ม_104.5
-https://th.wikipedia.org/wiki/กรีนเวฟ_106.5_เอฟเอ็ม
-https://th.wikipedia.org/wiki/บีอีซี-เทโร_เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
[4233]Translated
vendor wiki 在 MachSakai Airsoft Japan Youtube 的最讚貼文
気なったエアガン・銃関係のニュースです。
マック堺のyoutubeチャンネル登録
http://www.youtube.com/subscription_center?add_user=machsakai
記事のリンクは
Wilson Combat Recon Tactical .458 SOCOM Rifle
http://www.tactical-life.com/magazines/guns-and-weapons/wilson-combat-recon-tactical-458-socom-rifle-gun-preview/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=wilson-combat-recon-tactical-458-socom-rifle-gun-preview
.458 SOCOM
http://en.wikipedia.org/wiki/.458_SOCOM
STI Duty One "Lite" Pistols
http://www.thefirearmblog.com/blog/2014/03/06/sti-duty-lite-pistols/
Epic AR vs. AK vs.モシンナガン比較
http://www.thefirearmblog.com/blog/2014/03/06/epic-ar-vs-ak-vs-mosin-smart-arse-comparisons/
グロック、エアガンメーカー訴える
http://www.guns.com/2014/03/06/glock-filing-lawsuit-airsoft-vendor-replica-pistols/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=glock-filing-lawsuit-airsoft-vendor-replica-pistols
13歳少女3ガン撃つ
http://www.thefirearmblog.com/blog/2014/03/06/13-year-girl-rocks-3gun/
ショットガンの新しい弾
http://www.thefirearmblog.com/blog/2014/03/06/winchester-expands-blind-side-shotgun-ammunition/
APSで昼ご飯食べると
http://apskozou.militaryblog.jp/e523099.html
サファリのレンジバッグ
http://apslab.militaryblog.jp/e523022.html
ジャパンスティールチャレンジ
http://www.steelchallenge.net/info/
JANPS2013DVD
http://machsakai.com/janps-2013-dvd-0314/
vendor wiki 在 Vendors: Agency Guidelines - GitHub 的推薦與評價
... (GDPR) that comes into effect on May 25, 2018. - Vendors: Agency Guidelines · InteractiveAdvertisingBureau/GDPR-Transparency-and-Consent-Framework Wiki. ... <看更多>