รีวิว Lenovo Legion 5 สเปกแรงด้วย Ryzen 7 5800H + RTX 3060 จอ IPS 165Hz ฟีเจอร์ Gaming ครบเครื่อง
Lenovo Legion 5 รุ่นใหม่ปี 2021 นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ได้รับความสนใจพอตัว ด้วยความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด อย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ที่เป็น Gaming จริงจังรุ่นล่าสุด พร้อมด้วยการทำงาน Lenovo Legion AI Engine ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบ AI เป็นตัวช่วยในการแจกแจงพลังงานความร้อนหรือ Thermal Design Power (TDP) แบบอัตโนมัติ และเลือกใช้ค่า CPU และ GPU ที่เหมาะสม
รวมถึงมีสเปกรุ่นใหม่โดยใช้ CPU ชิปประมวผล AMD Ryzen 5000H อย่าง Ryzen 7 5800H ที่ประสิทธิภาพสสูง สถาปัตยกรรม Zen 3 ได้ทั้งความแรงขึ้นและร้อนน้อยลง แน่นอนว่าเลือกใช้ GPU การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P (6GB GDDR6) ที่มีความแรงความล้ำ ติดตั้งแรมเป็น 16GB DDR4 Bus 3200MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มี Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Coldfront 3.0 ที่ช่วยจัดการการระบายความร้อนให้ดียิ่งกว่า
สำหรับ Lenovo Legion 5 นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS คุณภาพสูง sRGB ใกล้เคียง 100% พร้อมด้วยมาตรฐาน HDR 400 โดยมี Refresh Rate ที่ 165Hz ลื่นไหลยิ่งกว่า ได้ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระชับ ลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรองได้ว่ามันสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ซึ่งนอกจากเล่นเกมระดับ AAA ได้ดีเพราะสเปกฮาร์ดแวร์ภายในเป็นขั้นสูง
ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็ตอบสนองได้ยอดเยี่ยม รวมไปถึงความบันเทิงจากการที่ใช้ลำโพง Harman ร่วมกับระบบเสียง Nahimic และคีย์บอร์ดไฟ RGB เป็น Legion TrueStrike ที่หนักแน่นอนแต่นุ่มนวล สนนราคา 39,990 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการอื่นๆ อย่างประกันอุบัติเหตุที่ 2 ปี โดยสามารถเคลมได้ 100% หรือเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย
บทความรีวิว https://bit.ly/3oPqmWl
Lenovo Legion 5 15ACH6H-82JU000ETA ราคา 39,990 บาท (ราคาเปิดตัว)
CPU : AMD Ryzen 7 5800H (8C/16T : 3.20 – 4.40 GHz)
GPU : AMD Radeon 8 + NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD @ 165Hz
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
OS : Windows 10 Home
Connector : Wi-Fi 6 AX (2 x 2) + BT5.0
Warranty : 3 Years On-site + 2 Years ADP
แพคเกจ Unbeatable Protection Pack ราคา 9,900 บาท
ประกันแบบ Premium Care ระยะเวลา 3 ปี
การสนับสนุนแบบ 24/7
พนักงาน Call Center เป็นผู้ชำนาญการด้านเทคนิคโดยเฉพาะ
รับประกันการซ่อมแบบ on-site next business day
เวลาทำการบริการ on-site ระหว่าง 9 AM- 9PM
การคุ้มครอง Lenovo Accidental Damage Protection (ADP) 2 ปี
การคุ้มครองด้านอุบัติเหตุแบบ Ultimate ADP 100% ดูแลด้านชิ้นส่วนและบริการ
#Lenovo #Legion #AMD #GamingNotebook #Notebook2021 #AdminPong #NBS #NotebookSPEC
--------------------------------------
อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา
→ https://notebookspec.com
ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBGaming
ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด
→ http://bit.ly/NBSearch
จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過59萬的網紅NotebookSPEC,也在其Youtube影片中提到,Lenovo Legion 5 รุ่นใหม่ปี 2021 นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ได้รับความสนใจพอตัว ด้วยความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด อย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลัก...
「thermal design power」的推薦目錄:
- 關於thermal design power 在 notebookspec Facebook 的最佳貼文
- 關於thermal design power 在 notebookspec Facebook 的最讚貼文
- 關於thermal design power 在 GamingDose Facebook 的精選貼文
- 關於thermal design power 在 NotebookSPEC Youtube 的最讚貼文
- 關於thermal design power 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於thermal design power 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於thermal design power 在 Can I choose a heatsink based on its thermal design power ... 的評價
thermal design power 在 notebookspec Facebook 的最讚貼文
Lenovo Legion 5 รุ่นใหม่ปี 2021 นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ได้รับความสนใจพอตัว ด้วยความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด อย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ที่เป็น Gaming จริงจังรุ่นล่าสุด พร้อมด้วยการทำงาน Lenovo Legion AI Engine
ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบ AI เป็นตัวช่วยในการแจกแจงพลังงานความร้อนหรือ Thermal Design Power (TDP) แบบอัตโนมัติ และเลือกใช้ค่า CPU และ GPU ที่เหมาะสม
รวมถึงมีสเปกรุ่นใหม่โดยใช้ CPU ชิปประมวผล AMD Ryzen 5000H อย่าง Ryzen 7 5800H ที่ประสิทธิภาพสสูง สถาปัตยกรรม Zen 3 ได้ทั้งความแรงขึ้นและร้อนน้อยลง แน่นอนว่าเลือกใช้ GPU การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P (6GB GDDR6) ที่มีความแรงความล้ำ
ติดตั้งแรมเป็น 16GB DDR4 Bus 3200MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มี Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Coldfront 3.0 ที่ช่วยจัดการการระบายความร้อนให้ดียิ่งกว่า
สำหรับ Lenovo Legion 5 นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS คุณภาพสูง sRGB ใกล้เคียง 100% พร้อมด้วยมาตรฐาน HDR 400 โดยมี Refresh Rate ที่ 165Hz ลื่นไหลยิ่งกว่า ได้ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระชับ
ลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรองได้ว่ามันสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ซึ่งนอกจากเล่นเกมระดับ AAA ได้ดีเพราะสเปกฮาร์ดแวร์ภายในเป็นขั้นสูง
ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็ตอบสนองได้ยอดเยี่ยม รวมไปถึงความบันเทิงจากการที่ใช้ลำโพง Harman ร่วมกับระบบเสียง Nahimic และคีย์บอร์ดไฟ RGB เป็น Legion TrueStrike ที่หนักแน่นอนแต่นุ่มนวล
สนนราคาเปิดตัวที่ 39,990 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการอื่นๆ อย่างประกันอุบัติเหตุที่ 2 ปี โดยสามารถเคลมได้ 100% หรือเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย
thermal design power 在 GamingDose Facebook 的精選貼文
ต้นปี 2564 MSI แบรนด์ผู้นำด้านเมนบอร์ดระดับโลกได้ประกาศเปิดตัวเมนบอร์ดในแพลตฟอร์ม Intel 500 series หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดเมนบอร์ด MSI Intel 500 series ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
.
ดังที่ MSI ได้ประกาศไว้ เมนบอร์ด MSI 500 Series ทุกรุ่นที่ใช้ CPU Intel Core 11th Gen จะสามารถรองรับ PCIe 4.0 และเมนบอร์ด Z590 Wi-Fi ทุกรุ่นจะมีพอร์ท 2.5G LAN อย่างน้อยหนึ่งพอร์ท พร้อมรองรับ Wi-Fi 6E ที่อัพเกรดขึ้นไปใช้ 6GHz spectrum เพื่อช่วยส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่โดดเด่นทั้งด้านการเล่นเกม สตรีมมิ่ง รวมถึงการทำงานแบบ Work from home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
โดยเมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นได้รับการอัพเกรดภาคจ่ายไฟ VRM power designs โดย MEG Z590 GODLIKE มาพร้อมภาคจ่ายไฟ direct 20 phases with 90A SPS ในขณะที่ MEG Z590I UNIFY ใช้ภาคจ่ายไฟ direct 8 phases with 90A SPS ส่วนเมนบอร์ด MEG Series รุ่นอื่นๆ จะใช้ภาคจ่ายไฟ 16 phases with 90A SPS พร้อมระบบ Mirrored Power Arrangement
.
ด้านวัสดุและการผลิต เมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นผลิตด้วย PCB ที่มีความหนาขั้นต่ำ 6 ชั้นขึ้นไป พร้อมใช้ทองแดงที่หนาถึง 2 Oz ในวงจรไฟฟ้าเพื่อเพิ่มเสถียรในการทำงานและยกระดับประสบการณ์การใช้งาน โดยเมนบอร์ด MEG ขนาด ATX ใช้ PCB ที่หนาถึง 8 ชั้น และ MEG Z590I UNIFY ใช้ PCB ที่หนาถึง 10 ชั้น นอกจากนี้เมนบอร์ด MSI Z590 Gaming Series ทุกรุ่นยังเลือกใช้ PCB คุณภาพสูงเกรดเซิร์ฟเวอร์ในการผลิตอีกด้วย
.
ส่วนด้านการเชื่อมต่อ เมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นมาพร้อมกับ Lightning USB 20G ที่รู้จักกันในชื่อ USB 3.2 Gen2x2 ซึ่งให้ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 20Gbps โดยใช้พอร์ตแบบ Type-C และที่พิเศษเฉพาะสำหรับเมนบอร์ด MEG Series นั้นจะมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 4 ซึ่งให้ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุดถึง 40Gbps ที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ Daisy-chained ได้สูงสุดถึง 6 ชุด รองรับหน้าจอความละเอียดสูงสุดถึง 8K และ USB 4.0 เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของครีเอเตอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ
.
นอกจากนี้ โปรแกรมยอดนิยม MSI Dragon Center จะได้รับการอัพเกรดมาเป็น MSI Center โดยมีการออกแบบ UI ขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ เช่น ภายในโปรแกรม MSI Center ผู้ใช้จะสามารถค้นหาฟีเจอร์ Sound Tune พร้อมทั้งเปิดการทำงานได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียว ส่วนในด้านพลังเสียง เมนบอร์ด MEG Z590 GODLIKE และ MEG Z590 ACE มาพร้อมกับ Audio Boost 5 HD ควบคู่ไปกับการใช้ audio processor รุ่นใหม่ ALC 4082 พร้อม ESS codec ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้อิ่มเอมไปกับพลังเสียงระดับมืออาชีพได้โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม
.
หลังจากมีการเผยโฉมเมนบอร์ด MSI รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นรอบด้านและมาพร้อมความคุ้มค่าสูงสุดสู่สาธารณะแล้ว ทุกคนต่างต้องการทราบรายละเอียดฟีเจอร์สุดล้ำต่างๆรวมถึงประสิทธิภาพของเมนบอร์ดรุ่นใหม่นี้ แต่ก่อนที่เราจะมีโอกาสได้สัมผัสเมนบอร์ดของจริง เราลองมาดูรายละเอียดเจาะลึกฟีเจอร์ต่างๆ ของเมนบอร์ด MSI 500 Series
.
ราชาแห่งสรรพสิ่ง - MEG
.
ด้วยการผสานฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเข้ากับสุนทรียแห่งการออกแบบ ทำให้เมนบอร์ด MSI MEG Series เปรียบได้ดั่งงานศิลปะชั้นสูงสำหรับผู้ใช้ในระดับ hardcore โดยเมนบอร์ดรุ่นแรกที่จะแนะนำคือ MEG Z590 ACE ซึ่งมาในโทนสีดำสุดคลาสสิค พร้อมแต่งแต้มด้วยสีทองอย่างมีระดับ
.
พร้อมประสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดต่างๆ เช่น Cover ที่ผลิตจากอลูมิเนียม, VRM heatsink, heat pipe พร้อม thermal pad เพื่อช่วยลดอุณหภูมิรอบๆตัว CPU นอกจากนี้สล็อต M.2 ทั้งสี่สล็อตยังได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อน M.2 Shield Frozr ส่วนด้านบนของเมนบอร์ด ภาคจ่ายไฟและ Chokes ทั้งหมดจะได้รับการติดตั้ง Choke Pad เพื่อช่วยระบายความร้อน นอกจากนี้ MSI ได้อัพเกรด Chest Plate สำหรับ MEG Z590 ACE ขึ้นมาเป็น Backplate อลูมิเนียม ที่ครอบคลุมพื้นที่ด้านหลังเมนบอร์ดเกือบทั้งหมดเพื่อช่วยในการการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการทดสอบของ MSI อุณหภูมิทั้งด้านหน้าและหลังแผ่น PCB ของ MEG Z590 ACE ลดลงได้ถึง 21% และ 15.8% ตามลำดับ ส่วน MEG Z590 GODLIKE จะลดลงได้มากถึง 27% ที่ด้านหน้าและ 16% ที่ด้านหลัง ซึ่งพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีการระบายความร้อนของ MSI นั้นมีประสิทธิภาพอย่างมาก*1
.
ในด้านการเชื่อมต่อ เมนบอร์ด MEG Series มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi 6E แบบใหม่ล่าสุด นอกจากนี้เมนบอร์ด MEG ขนาด ATX จะมีสล็อต M.2 มากถึงถึงสี่สล็อต, พอร์ต 8 พินถึง 2 พอร์ต และยังมีฟีเจอร์เพิเศษที่มีเฉพาะในเมนบอร์ด MEG Series เช่นพอร์ท Thunderbolt 5 และ Audio Boost 5 HD
.
สำหรับเมนบอร์ด MEG Z590 GODLIKE, MEG Z590 UNIFY และ MEG Z590I UNIFY มีกำหนดการวางจำหน่ายในเร็วๆนี้
.
เมนบอร์ดที่เกิดมาเพื่อจะเปลี่ยนโลก - MPG
.
เมนบอร์ด MPG Series โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ดึงดูดสายตา โดย MSI ได้ทำการอัพเกรดเมนบอร์ด MPG Series ด้วยการใช้ VRM heatsink แบบ wavelike ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน และการออกแบบ M.2 Shield Frozr ให้ดูคล้ายvolume bar พร้อมแอบซ่อน easter eggs ไว้อย่างแนบเนียน และที่พิเศษไปกว่านั้น เมนบอร์ด MPG Z590 GAMING FORCE ยังเป็นเมนบอร์ดตัวแรกของโลกที่เลือกใช้โทนสี violet black อีกด้วย
.
MPG Z590 GAMING CARBON WIFI และ MPG Z590 GAMING FORCE เป็นหนึ่งในเมนบอร์ดชุดแรกที่จะวางจำหน่าย ทั้งสองรุ่นใช้ภาคจ่ายไฟประสิทธิภาพสูงแบบ 16 Duet Rail Power System with 75A SPS นอกจากนี้เมนบอร์ด MPG ขนาด ATX ยังมีสล็อต M.2 มากถึงสามสล็อตพร้อมระบบระบายความร้อน M.2 Shield Frozr และพอร์ท Lightning USB 20G ทั้งหมดนี้ช่วยให้เมนบอร์ด MSI MPG Series นั้นโดดเด่นเหนือใครๆ
.
สไนเปอร์มือหนึ่งแห่งสนามรบ - MAG
.
MAG Series ของ MSI นั้นมาในธีมสีของยุทโธปกรณ์ทางทหาร ทั้งสีดำ Graphite Black สีน้ำเงิน Pacific Blue และสีเขียว Midnight Green แฟนๆ MAG Series สามารถเลือกสีได้ตามความชอบ นอกเหนือจากความหลากหลายด้านรูปลักษณ์แล้ว เมนบอร์ด MAG Z590 ของ MSI ยังมาพร้อมภาคจ่ายไฟ 14 Duet Rail Power System พร้อม DrMOS และ Extended Heatsink Design เพื่อให้เมนบอร์ดสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น MAG Z590 TOMAHAWK WIFI ยังมีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ทันสมัยที่สุด ทั้ง Wi-Fi 6E และ Intel 2.5G LAN
.
ตวิญญาณแห่งนักธุรกิจมืออาชีพ – PRO
.
เมนบอร์ด PRO Series โดดเด่นด้วยการออกแบบ ลวดลาย และการเลือกใช้โทนสี Matte black ที่สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพ โดยเมนบอร์ด PRO Series ของ MSI นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองการทำงานในภาคธุรกิจจนถึงการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เมนบอร์ด Z590-A PRO และ Z590 PRO WIFI มาพร้อมภาคจ่ายไฟ 12 Duet Rail Power System พร้อม DrMOS และ Extended Heatsink Design เพื่อการระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ Frozr AI Cooling ที่ช่วยลดอุณหภูมิของเมนบอร์ดทั้งด้านหน้าและหลังได้ถึง 18% และ 26%*1 นอกจากนี้ Z590 PRO WIFI ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแห่งอนาคต
.
Wi-Fi 6E เพื่อตอบสนองการทำงานในยุคดิจิทัล
.
เตรียมพร้อมออกทะยานไปสู่จุดสูงสุดใหม่แล้วรึยัง? ถ้าพร้อมแล้ว คลิ๊กที่นี่ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนบอร์ด MSI 500 Series
.
*1:ทำการทดสอบโดยใช้ CPU Intel Core I9-10900K และ Corsair H150i Pro (360mm)
.
MSI GAMING: https://www.msi.com/
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand/
MSI Instagram: https://www.instagram.com/msigaming_thailand/
MSI YouTube: https://www.youtube.com/user/MSIGamingGlobal
MSI Twitter: https://twitter.com/msi_th
.
Subscribe MSI RSS Feeds ได้ที่ https://www.msi.com/rss เพื่อการติดตามข่าวสารและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก MSI ในแบบ real-time
thermal design power 在 NotebookSPEC Youtube 的最讚貼文
Lenovo Legion 5 รุ่นใหม่ปี 2021 นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ได้รับความสนใจพอตัว ด้วยความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด อย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ที่เป็น Gaming จริงจังรุ่นล่าสุด พร้อมด้วยการทำงาน Lenovo Legion AI Engine ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบ AI เป็นตัวช่วยในการแจกแจงพลังงานความร้อนหรือ Thermal Design Power (TDP) แบบอัตโนมัติ และเลือกใช้ค่า CPU และ GPU ที่เหมาะสม
รวมถึงมีสเปกรุ่นใหม่โดยใช้ CPU ชิปประมวผล AMD Ryzen 5000H อย่าง Ryzen 7 5800H ที่ประสิทธิภาพสสูง สถาปัตยกรรม Zen 3 ได้ทั้งความแรงขึ้นและร้อนน้อยลง แน่นอนว่าเลือกใช้ GPU การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P (6GB GDDR6) ที่มีความแรงความล้ำ ติดตั้งแรมเป็น 16GB DDR4 Bus 3200MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มี Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Coldfront 3.0 ที่ช่วยจัดการการระบายความร้อนให้ดียิ่งกว่า
สำหรับ Lenovo Legion 5 นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS คุณภาพสูง sRGB ใกล้เคียง 100% พร้อมด้วยมาตรฐาน HDR 400 โดยมี Refresh Rate ที่ 165Hz ลื่นไหลยิ่งกว่า ได้ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระชับ ลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรองได้ว่ามันสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ซึ่งนอกจากเล่นเกมระดับ AAA ได้ดีเพราะสเปกฮาร์ดแวร์ภายในเป็นขั้นสูง
ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็ตอบสนองได้ยอดเยี่ยม รวมไปถึงความบันเทิงจากการที่ใช้ลำโพง Harman ร่วมกับระบบเสียง Nahimic และคีย์บอร์ดไฟ RGB เป็น Legion TrueStrike ที่หนักแน่นอนแต่นุ่มนวล สนนราคา 39,990 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการอื่นๆ อย่างประกันอุบัติเหตุที่ 2 ปี โดยสามารถเคลมได้ 100% หรือเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย
บทความรีวิว https://bit.ly/3oPqmWl
Lenovo Legion 5 15ACH6H-82JU000ETA ราคา 39,990 บาท (ราคาเปิดตัว)
CPU : AMD Ryzen 7 5800H (8C/16T : 3.20 – 4.40 GHz)
GPU : AMD Radeon 8 + NVIDIA GeForce RTX 3060 Max-P
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD @ 165Hz
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
OS : Windows 10 Home
Connector : Wi-Fi 6 AX (2 x 2) + BT5.0
Warranty : 3 Years On-site + 2 Years ADP
แพคเกจ Unbeatable Protection Pack ราคา 9,900 บาท
ประกันแบบ Premium Care ระยะเวลา 3 ปี
การสนับสนุนแบบ 24/7
พนักงาน Call Center เป็นผู้ชำนาญการด้านเทคนิคโดยเฉพาะ
รับประกันการซ่อมแบบ on-site next business day
เวลาทำการบริการ on-site ระหว่าง 9 AM- 9PM
การคุ้มครอง Lenovo Accidental Damage Protection (ADP) 2 ปี
การคุ้มครองด้านอุบัติเหตุแบบ Ultimate ADP 100% ดูแลด้านชิ้นส่วนและบริการ
#Lenovo #Legion #AMD #GamingNotebook #Notebook2021 #AdminPong #NBS #NotebookSPEC
--------------------------------------
อ่านรีวิวเต็ม & ดูสเปคและราคา
→ https://notebookspec.com
ค้นหาโน้ตบุ๊คเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBGaming
ค้นหาโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด
→ http://bit.ly/NBSearch
จัดสเปคพีซี สเปคคอมเล่นเกม
→ http://bit.ly/NBSspecpc
--------------------------------------
► ติดตามเราได้ที่ ◄
Youtube : https://www.youtube.com/c/notebookspec
Facebook : https://www.facebook.com/notebookspec
Twitter : https://twitter.com/notebookspec
Line: @NotebookSPEC
ติดต่อโฆษณา/รีวิว : [email protected]
thermal design power 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
2018 Toyota Hilux
The exterior reflects a "tough yet emotional" design expressing power and vigor. The interior features silver highlights throughout along with blue cabin illumination, creating a sense of sophistication. Five colors were selected for the exterior panels, including Nebula Blue Metallic and Crimson Spark Red Metallic, while the interior is black.
The vehicle is equipped with a 2GD-FTV 2.4-liter diesel engine. Offering power performance demonstrating high torque even in the low revolution range, it also demonstrates excellent environmental performance through high thermal efficiency and achieves a fuel efficiency rating of 11.8 km/L1.
The vehicle is outfitted with safety features, including a Pre-Collision System with Pedestrian Detection2 collision avoidance support package to recognize pedestrians, as well as cars. Additionally, Lane Departure Alert2 is an installed feature that helps prevent accidental lane departures.
The vehicle is equipped with a part-time 4WD system that allows the driver to select driving modes at the touch of a dial. The two-wheel drive mode boasts superior quietness and fuel efficiency and is ideal for driving in urban areas and on expressways. This can be switched to four-wheel drive for rough terrain and slippery roads, thus comfort and performance can always be maintained. Also, driving power can be adjusted to suit various road conditions through Hill-start Assist Control, Active Traction Control2, or Downhill Assist Control2. As an authentic 4WD vehicle, it achieves high on- and off-road driving performance.
The vehicle adopts a suspension system that boosts vibration damping, as well as a high-strength frame that ensures excellent running stability and driving comfort both on- and off-road.
By setting the steel bumper at a low position behind the bed, passengers can safely board and disembark when loading and unloading items. Also, large hand grips help passengers enter and exit the cabin with ease.
thermal design power 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
The 2018 Accord takes an entirely new approach to performance by featuring three advanced new powerplants – two turbocharged 4-cylinder engines and the third generation of Honda's two-motor hybrid powertrain technology. A new Honda-developed 10-speed automatic transmission (10AT), the first of its kind for a front-wheel-drive car, is paired with the new 2.0-liter engine, and a short-throw 6-speed manual transmission is available for both turbocharged engines in Sport trim.
The new 1.5-liter, 16-valve DOHC direct-injected turbo with dual Variable Timing Control (dual VTC) and VTEC produces a peak of 192 horsepower (SAE net) at 5,500 rpm and 192 lb.-ft. of torque (SAE net) from 1,600 to 5,000 rpm, up from 185 HP (SAE net) at 6,400 rpm and 181 lb.-ft. (SAE net) at 3,900 rpm on the existing normally-aspirated 2.4-liter model. The new 1.5-liter turbo is mated to a Honda continuously variable automatic transmission (CVT), or in Sport trim to a CVT or a 6-speed manual transmission (6MT).
The Accord can also be equipped with a new 2.0-liter 16-valve DOHC direct-injected turbo with VTEC® valvetrain and dual VTC, paired with a 10-speed automatic transmission or, in Sport trim, to the 10AT or an available 6-speed manual. The new 2.0-liter turbo, sharing much of its design with the 2017 Civic Type R, produces 252 HP (SAE net) at 6,500 rpm and 273 lb.-ft. of torque (SAE Net) from 1,500 to 4,000 rpm, compared to 278 HP (SAE net) at 6,200 rpm and 252 lb.-ft. (SAE net) at 4,900 rpm for the 3.5-liter V6 that it replaces.
The new Accord Hybrid is powered by the 3rd-generation of Honda's two-motor hybrid technology featuring a 2.0-liter 16-valve DOHC Atkinson cycle engine with greater than 40 percent thermal efficiency, the highest for any mass-produced Honda engine, paired with two electric motors. As before, the Accord two-motor system operates without the need for a conventional automatic transmission. Additionally, a new, more compact intelligent power unit (IPU), containing the hybrid battery pack and its control systems, is now mounted under the rear floor instead of in the trunk, preserving both cargo space (16.7 cu.-ft.) and the flexibility of a 60/40-split and folding rear seat, standard on all Hybrid models and trims.
Accord Models and Trims
With the application of Honda Sensing™ as standard equipment, the 2018 Accord model and trim lineup is made simpler than before, while also offering customers more choice with the addition of a Touring trim for the 1.5-liter model and a Sport trim for the 2.0-liter model, as well as a new, more affordable base Hybrid trim as well as a new EX trim for the Hybrid.
The 2018 Accord with 1.5-liter turbocharged engine is available in six trims: LX, Sport, EX, EX-L, EX-L Navi and Touring. The 2018 Accord with the 2.0-liter VTEC turbo comes in four trims: Sport, EX-L, EX-L Navi and Touring. The new Accord Hybrid has five trims: Hybrid, EX, EX-L, EX-L Navi and Touring.
thermal design power 在 Can I choose a heatsink based on its thermal design power ... 的推薦與評價
TDP is roughly how much power the cooler can handle while keeping the CPU core under 80 or 90C. How cool it will keep an LED depends on it's ... ... <看更多>
相關內容