รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有195部Youtube影片,追蹤數超過21萬的網紅Ghib Ojisan,也在其Youtube影片中提到,How are sushi restaurants in Singapore and Japan different? I've created mini skits to demonstrate the differences starting from entering the restaura...
have the bill 在 Facebook 的精選貼文
Despite its historic achievement, the Taiwanese same-sex marriage law passed in 2019 did not provide full legal equality. One glaring omission is the right of all transnational same-sex couples to lawfully marry.
We are the Taiwan Alliance to Promote Civil Partnership Rights (TAPCPR) and, as the leading legal aid organization for LGBTI rights in Taiwan, started raising awareness and campaigning for the rights of transnational same-sex couples back in 2017. We also represented several clients to initiate relevant litigation in 2019.
Same-sex couples in which one partner is Taiwanese and the other is a foreign national of a country that does not yet recognize same-sex marriage are not permitted to marry, as per Article 46 of Taiwan’s “Act Governing the Choice of Law in Civil Matters Involving Foreign Elements” which is currently interpreted as prohibiting such marriages in Taiwan. We believe that this interpretation is illegal and unjust, and transnational same-sex couples have finally won two court cases this year! Nevertheless, the government still refuses to promptly modify its interpretation or to amend relevant laws and regulations. The Judicial Yuan has prepared a draft amendment of Article 46 of Taiwan’s “Act Governing the Choice of Law in Civil Matters Involving Foreign Elements” and sent it to the cabinet (Executive Yuan) back in January 2021, but the cabinet has not yet sent the bill to the Legislative Yuan (our parliament).
The threat of COVID-19 has made the situation of transnational same-sex partners even more precarious than usual. We need more people to stand with us in this fight for true marriage equality!
The Taiwan Alliance to Promote Civil Partnership Rights ("TAPCPR") was founded in 2009, and registered with the Ministry of the Interior in August 2012. We drafted three bills for “diverse family formation” in 2012, which laid the foundation for future legislation. In 2017, we represented Chi Chia-Wei and won the same-sex marriage case (“Judicial Yuan Interpretation No. 748”), making Taiwan the first country in Asia to legalize same-sex marriage in May 2019.
https://taiwanplus.com/vods?c=90000092&fbclid=IwAR0qoOMg5ENkOMHiUeH9ARgH8xBkWt7cW99DB0U3rGAT-ExbYbgxy-tQL98&v=80000550
have the bill 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的精選貼文
【被男客人逗笑記】
MY HUMOUROUS MALE CLIENTS
不知是不是物以類聚,人以群分的關係,原來我的客人也蠻幽默的。
事件一:
男客人:「老師!哇,你真人的臉比較小,在螢幕上看你的臉是比較大的!」
我抬頭看著男客人。
「你今天來,是幫我看相的嗎?」
•
事件二:
我:「X先生,之前我這樣對你,是因為⋯⋯」
男客人一臉殷勤的說:「沒事,師父!你不用解釋,我都明白!我見過很多高人,高人高人一等,所以性格上都是有點奇怪,有些怪癖的!」
欸,不對,這是對我的讚譽嗎?怎麼聽起來怪怪的?🤨
•
事件三:
我站在餐廳外,等老公結帳。
突然,一把聲音:「李老師!」
我轉過頭,欸,一家大小,是不熟悉的臉孔,應該是影片的觀眾吧!
帶著口罩都能被認出,對方真是好眼力。
我立刻現出「空姐式的微笑」,並打招呼。#反應快
男士告訴我,他很想請我到他家看風水。我點頭說,可以等報名表開放時報名。
之後⋯⋯
他眼睛就一直盯著我的雙眸看,再三的問:
「老師,你⋯⋯看得到,對嗎?」
我心裡的OS:我今天戴著隱形眼鏡,看你們一家人的樣子很清楚。我們第一次見面,我沒有認錯,我視力沒問題啊~
所以我很自然的點頭:「看到啊!」
男士保持著禮貌的距離,頭繼續往前,目不轉睛的研究著我的眼睛,喃喃自語:「我看老師的眼睛,是看得到的。」
然後,彷彿得到答案後,男士臉上才露出滿意的笑容。
看著他的表情,心裡覺得有點莫名其妙。
我只是因為以前用錯眼霜,眼袋那裡長了很多油泡而已,眼睛沒什麼問題啊~
告別後,我站在電動扶梯上,腦袋好像被五雷轟頂似後,我才猛然驚覺⋯⋯🤯
原來他剛才是在問,我到底是不是開了天眼,能否看到無形的朋友!
————————————————
I wonder whether it’s because of the theory “Birds of the same feather flock together”. I realise a number of my clients do have a funny bone in them.
Incident 1:
Male client, “Wow, Teacher! Your face in person is smaller! Your face look bigger on screen!”
I raised my head to look at him.
Me, “Are you here today to do face reading for me?”
•
Incident 2:
Me, “Mr X, I treated you that way earlier on, because ⋯”
Male client earnestly chirped, “No worries, Master! You don’t have to explain. I totally understand. I have met many expert masters. Being superior experts, they are all eccentric in their own ways and all have some quirks!”
Erm, is this a compliment for me? Why does it sound weird somehow? 🤨
•
Incident 3:
I was waiting outside the restaurant for the husband to settle the bill.
Out of the blue, I heard a voice, “Teacher Lee!”
I turned my head around and saw a family of unfamiliar faces. They must be viewers of my videos, I thought.
I was mildly surprised to be recognized with my mask on. They sure have good eyesight.
I flashed my signature SQ smile at them and greeted them. #quickreaction
The man of the family told me that he wished to invite me to his home for a Feng Shui audit. I nodded my head and told him to register when my forms opened.
And then…
His eyes fixated on mine, and asked repeatedly,
“Teacher, you…can see, right?”
The OS inside my mind started racing. I was wearing contact lenses and I had no problem seeing your faces. I was pretty sure that today was our first time meeting. There was no issue with my eyes.
So I naturally nodded my head and replied, “Yes, I can see!”
He kept a polite distance but his head inched forward a teeny bit, with his eyes relentlessly exploring mine.
He then mumbled, “I see that Teacher’s eyes are able to see.”
His face began to smile, as if his exploration had gotten him a satisfactory answer.
Looking at his expression, I felt baffled.
I only had many milia seeds under my eyes due to using the wrong eye cream in my youth, but apart from that, my eyes are perfectly fine.
After bidding farewell, as I took the escalator, my brain lit up as if it was struck by the five thunders.
I suddenly realised…
The male viewer was asking if I had the clairvoyant eye and could see the invisible!
have the bill 在 Ghib Ojisan Youtube 的最佳貼文
How are sushi restaurants in Singapore and Japan different? I've created mini skits to demonstrate the differences starting from entering the restaurant and paying the bill. Just a short disclaimer, I have no intentions of making fun of different pronunciations of Japanese words. Heck, I myself pronounce a lot of English and Mandarin incorrectly too. But I do feel it sounds kind of cute.
The latter half of the skit is inspired by calvinandhabs. Check them out, they are hilarious.
https://www.instagram.com/tv/CPCQsx3nTwg/?hl=en
?Other Sushi Related Videos
We Tried 4 Japanese Supermarket Sushi to Find Out the Best
https://www.youtube.com/watch?v=NLrwPTz3Vp0&t
Ichibanboshi Review
https://www.youtube.com/watch?v=oyCrX1IOzJg&vl=en
Follow me on social medias!
?Instagram https://www.instagram.com/ghibli_ojisan/
?Twitter https://twitter.com/ghibli_ojisan
?Subscribe: http://urx3.nu/HTUJ
?Watch - Perhaps the Best Meal I had in Singapore:https://youtu.be/d46br1oiYaE
?Merch Links(アパレル):
SE Asia | https://ghib-ojisan.secure-decoration.com/shop/category/T-Shirt?c=2731898
Japan | https://suzuri.jp/ghib-ojisan
USA & EU | https://teespring.com/stores/ghib-ojisan
Business Enquiries
✉️[email protected]
You are welcome to send fan mails but I may not be able to respond to all of them. But I immensely appreciate your support. Thank you!
#Singapore #Sushi
have the bill 在 志祺七七 X 圖文不符 Youtube 的精選貼文
本集廣告與 「【芒狗狗】素養教育學習箱」合作播出
【芒狗狗】素養教育學習箱,是專們為台灣孩子打造的在地原創素養教材,內容針對台灣情境設計。
#芒狗狗素養教育學習箱
#讓孩子的潛力發光
👉🏻 現在參與募資 https://bit.ly/3y06Rid
本集節目內容由志祺七七頻道製作,不代表 【芒狗狗】素養教育學習箱 立場。
✔︎ 成為七七會員(幫助我們繼續日更,並享有會員專屬福利):http://bit.ly/shasha77_member
✔︎ 體驗志祺七七文章版:https://blog.simpleinfo.cc/shasha77
✔︎ 購買黃臭泥周邊商品: https://reurl.cc/Ezkbma 💛
✔︎ 訂閱志祺七七頻道: http://bit.ly/shasha77_subscribe
✔︎ 追蹤志祺IG :https://www.instagram.com/shasha77.daily
✔︎ 來看志祺七七粉專 :http://bit.ly/shasha77_fb
✔︎ 如果不便加入會員,也可從這裡贊助我們:https://bit.ly/support-shasha77
(請記得在贊助頁面留下您的email,以便我們寄送發票。若遇到金流問題,麻煩請聯繫:service@simpleinfo.cc)
各節重點:
00:00 開頭
00:56 【繪本募資】一分鐘廣告
01:48 美國的邊境問題
02:54「非法」還是「無證」?
04:06 川普的移民政策
05:20 那道「又大又美」的牆,後來怎麼了?
06:51 拜登的移民政策
08:28 我們的觀點
09:35 問題
10:00 結尾
【 製作團隊 】
|企劃:力寧
|腳本:力寧
|編輯:土龍
|剪輯後製:鎮宇
|剪輯助理:歆雅/珊珊
|演出:志祺
——
【 本集參考資料 】
→拜登不蓋美墨高牆了! 上任首日推翻川普政策:https://bit.ly/3yOTgKR
→曾被川普當成重要政績 美國防部暫停蓋美墨圍牆:https://bit.ly/34xzg1v
→拜登移民政策大轉彎? 將繼續興建美墨邊境圍牆:https://bit.ly/3yMziAy
→美墨邊境面臨20年最大移民潮,拜登呼籲:「不要再來了!」:https://bit.ly/2Rb6XTE
→Biden tells migrants 'don't come over' in ABC News exclusive interview:https://abcn.ws/3yJSQpj
→拜登上任湧現移民潮 美墨邊界2月扣留近10萬人:https://bit.ly/3yS0X2Y
→美墨邊境移民湧入 拜登指派賀錦麗親自處理:https://bit.ly/34LrEsB
→Biden Denies Reports of Restarting Trump's Border Wall:https://bit.ly/2TlVmlc
→Biden admin to 'surge' aid to Central America, offer 'legal paths' to stem historic migration:https://abcn.ws/3vwMBTH
→Joe Biden's border challenge: reversing Trumpism – podcast | News | The Guardian:https://bit.ly/3i1uH7H
→Biden’s Dilemmas, Part 2: Children at the Border - The New York Times:https://nyti.ms/3c5VnQT
→歐巴馬特赦500萬非法移民 共和黨譏「皇帝」揚言彈劾:https://bit.ly/3c8ouTM
→Why Walls Won't Secure The U.S.–Mexico Border:https://bit.ly/3wLhmEB
→美國邊境拘留所實況曝光》毫無人性!上千移民塞鐵籠,有人擠到只能站著不動,稱女性被迫喝馬桶水:https://bit.ly/3i5Gi5O
→母子冒險走逾千公里 美墨邊境遭擋下:https://youtu.be/Wc5f11Bskco
→美墨邊境偷渡頻繁 人藏貨車活活被熱死:https://youtu.be/7sZ4BRw6xY0
→拆散非法移民家庭,真是川普的錯嗎?:https://bit.ly/3c2WDo0
→邊境圍牆預算卡關 美國聯邦政府停擺 :https://youtu.be/aTOkozlcwNo
→鐵了心築牆!川普宣布:美國進入緊急狀態:https://youtu.be/5iCYGu-tdOk
→擋川普執意蓋牆,13名共和黨議員「倒戈」美眾院通過撤銷國家緊急狀態:https://bit.ly/3uHR58Y
→川普「美墨邊境建牆」仍擋不住?疑毒販挖跨國地道犯罪:https://bit.ly/3wHLJvC
→Privately Funded Border Wall Near Completion In New Mexico:https://n.pr/3yT9jaz
→Trump wall: How much has he actually built?:https://bbc.in/3c5MdnD
→美國法官下令 川普政府須全面恢復追夢人計畫:https://bit.ly/3icAIhI
→Fact Sheet: President Biden Sends Immigration Bill to Congress as Part of His Commitment to Modernize our Immigration System:https://bit.ly/3i61wR4
→移民湧入美墨邊境 收容所擁擠簡陋:https://youtu.be/OvEi4L4I6MY
→美墨邊境監視器直擊 走私客四米高圍牆丟2童至美境內:https://youtu.be/ZwTyx2Ty1CA
→美眾院通過法案 無證移民有機會獲合法身分:https://bit.ly/3i2prk3
→承諾廣收移民 拜登卻維持川普1.5萬人上限:https://bit.ly/3wJbDit
→Immigration Agencies Ordered Not To Use Term 'Illegal Alien' Under New Biden Policy:https://n.pr/3i5EV6U
【 延伸閱讀 】
→【美國大選.特別報導】川普與拜登大相逕庭的移民政策,台美人怎麼看?:https://bit.ly/3fCkxsu
→移動專欄--不合法移民的名稱之爭illegal immigrants 還是undocumented immigrants還是...?:https://bit.ly/3yRQFA4
→美墨邊境生活:https://youtu.be/Mb6ZaAHZnck
→In a ‘Sanctuary City,’ Immigrants Are Still at Risk:https://nyti.ms/3p3AlHZ
→Crying Toddler On Widely Shared 'Time' Cover Was Not Separated From Mother 2018:https://n.pr/3p7gmrC
→Yes, Obama deported more people than Trump but context is everything:https://cnn.it/2R6b0Ar
→KIDS IN CAGES AND OTHER SCENES FROM TRUMP’S “ZERO-TOLERANCE” BORDER:https://bit.ly/3fz3DLi
→From ‘zero tolerance’ to now: How America’s migrant policies have changed in the Trump and Biden years:https://bit.ly/2TqBX2B
\每週7天,每天7點,每次7分鐘,和我們一起了解更多有趣的生活議題吧!/
🥁七七仔們如果想寄東西關懷七七團隊與志祺,傳送門如下:
106台北市大安區羅斯福路二段111號8樓
🟢如有引用本頻道影片與相關品牌識別素材,請遵循此規範:http://bit.ly/shasha77_authorization
🟡如有業務需求,請洽:hi77@simpleinfo.cc
🔴如果影片內容有誤,歡迎來信勘誤:hey77@simpleinfo.cc
have the bill 在 BÍ QUYẾT THÀNH CÔNG Youtube 的最佳解答
CHẤN ĐỘNG Thế Giới Tỷ Phú Bill Gates LY HÔN Sau Gần 30 Năm Chung Sống - 147 Tỷ USD Sẽ Thuộc Về Ai?
========================
80 đầu sách nói hay nhất mọi thời đại về Kinh doanh - Làm giàu ? http://tusachdoanhnhan.biz/usb-sach-noi/usb-sach-noi-bizbooks-837.html
Đây là hành trang giúp hiện thực hóa giấc mơ làm giàu của bất kì ai may mắn sở hữu nó
========================
Bí Quyết Thành Công là kênh chia sẻ những kiến thức giúp bạn phát triển bản thân, phát triển kinh doanh. Với mong muốn giúp nhiều người Việt Nam có những kiến thức đúng, có tư duy của sự thịnh vượng. Không chỉ mong muốn các bạn giàu có, thành công mà còn hạnh phúc với cuộc sống của chính mình. Sống một cuộc đời đáng sống. Chỉ như vậy đất nước chúng ta mới trở nên tuyệt vời hơn nữa.
Hi vọng với những chủ đề như review, tóm tắt các cuốn sách làm giàu, sách kinh doanh, sách doanh nhân sách hay nên đọc.. và các bí quyết thành công, bài học thành công, kinh nghiệm sống, ý tưởng khởi nghiệp, kỹ năng mềm, kinh nghiệm kinh doanh, kinh nghiệm khởi nghiệp … sẽ giúp các bạn được nhiều hơn nữa.
Hãy đăng ký kênh Bí Quyết Thành Công để chúng ta cùng học mỗi ngày nhé!
● Đăng ký kênh: https://bit.ly/2A7rjno
● Fanpage : https://bitly.com.vn/nitod7
►Danh sách phát:
- Sách làm giàu, tóm tắt, reviews sách hay nên đọc: https://bit.ly/2v1RkhZ
- Bài học thành công của tỷ phú, người nổi tiếng, doanh nhân | DANGTR: https://bit.ly/2n0WhEo
-------------------------------------------------------------------------------------
Video có thể có sử dụng nội dung chứa bản quyền dựa trên luật sử dụng hợp lý FairUse.
Mọi vấn đề vi phạm chính sách, nguyên tắc cộng đồng, luật bản quyền, chúng tôi luôn mong muốn mang lại những tri thức cho mọi người và cộng đồng.
--------------------------------------------------------------------------------------
✅ Liên Hệ Quảng Cáo:
+ SĐT: 0355141222
+ Email: dangtrann1312@gmail.com
Music by: https://www.youtube.com/audiolibrary/...
Photos Licensed Under CC
*Copyright Disclaimer*
- Chúng tôi không sở hữu hoàn toàn những tư liệu được tổng hợp trong video này. Nó thuộc về những cá nhân hay tổ chức đáng được tôn trọng.
Chúng tôi sử dụng theo: Tuyên bố từ chối trách nhiệm bản quyền mục 107 của Đạo luật bản quyền năm 1976. Được phép "sử dụng hợp lý" cho các mục đích như phê bình, bình luận, báo cáo tin tức, giảng dạy, học bổng và nghiên cứu.
- We does not own the rights to these video clips. They have, in accordance with fair use, been repurposed with the intent of educating and inspiring others. However, if any content owners would like their images removed, please contact us by
Email: dangtrann1312@gmail.com
Website: http://bmgnews.net/
Trò chuyện, kết bạn Youtube: http://bit.ly/trochuyencungBQTC
Fanpage:https://www.facebook.com/biquyetthanhcong102
Âm nhạc trong video: Carefree của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1400037
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
Life of Riley của Kevin MacLeod được cấp phép theo giấy phép Creative Commons Attribution (https://creativecommons.org/licenses/by/4.0/)
Nguồn: http://incompetech.com/music/royalty-free/index.html?isrc=USUAN1400054
Nghệ sĩ: http://incompetech.com/
Cảm ơn tất cả các bạn rất nhiều!