#國外焦點新聞
#能源轉型 #綠電先行
《2020 年石油產業受疫情重創,BP:再生能源成長反創新高》
英國石油(British Petroleum,BP)最近公布 2020 年能源產業的觀察,全球能源市場報告指出,受到 COVID-19 疫情影響,2020 年全球石油需求降幅來到二戰以來最大,相較之下,太陽能與風力發電影響不大,裝置量在去年更以創新紀錄的速度攀升,使得碳排量下降 6.3%。
👍全民按讚支持 #台灣發展再生能源
🔎欲知詳情《https://boeenergy.pse.is/3k7vvy 》
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過878的網紅時事英文 Podcast by ssyingwen,也在其Youtube影片中提到,英國爆發恐慌搶油潮,一些加油站燃料耗盡不得不關閉,還在營業的加油站外大排長龍。業者強調不是缺油,而是缺乏大型貨車司機導致運油供應鏈出問題,呼籲民眾拜託不要再囤積汽油了。英國政府週六宣佈將發放數千份緊急簽證給國外的卡車司機,但英國零售商協會表示已「太少、太晚」。 📝 講義 (只要 $88 /月)...
「british petroleum」的推薦目錄:
- 關於british petroleum 在 再生能源資訊網 Facebook 的最佳貼文
- 關於british petroleum 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於british petroleum 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於british petroleum 在 時事英文 Podcast by ssyingwen Youtube 的最佳解答
- 關於british petroleum 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
- 關於british petroleum 在 British Petroleum - BP - YouTube 的評價
british petroleum 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปเรื่อง จักรวรรดิอังกฤษ เครือจักรภพ ฉบับสมบูรณ์ /โดย ลงทุนแมน
ภาษาอังกฤษก้าวขึ้นมาเป็นภาษาสากลของโลก
ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาที่มีคนใช้เป็นภาษาแม่มากที่สุด
โดยหนึ่งในเบื้องหลังที่สำคัญที่สุด ก็คือ “จักรวรรดิอังกฤษ”
จากประเทศเกาะเล็ก ๆ สุดขอบทวีปยุโรป เติบโตขึ้นจนสามารถครอบครองดินแดน
และสร้างอาณานิคมไว้ทั่วทุกมุมโลก จนได้ฉายาว่า จักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน
ในยุครุ่งเรืองที่สุด จักรวรรดิอังกฤษครอบครองพื้นที่มหาศาลถึง 1 ใน 4 ของโลก
ซึ่งนับเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ..
แล้วถ้าอำนาจของจักรวรรดิอังกฤษยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้จะใหญ่ขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่น มาฟังความเป็นมาของจักรวรรดิแห่งนี้กันสักนิด..
ดินแดนอังกฤษตั้งอยู่ในหมู่เกาะที่อยู่ริมสุดด้านตะวันตกของทวีปยุโรป
โดยมีช่องแคบกั้นระหว่างหมู่เกาะแห่งนี้กับผืนแผ่นดินใหญ่
การเป็นเกาะโดดเดี่ยวที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับใคร ถึงแม้จะมีข้อเสียในเรื่องการเดินทางค้าขาย
แต่กลับมีข้อดีอย่างมาก เพราะในระหว่างที่ดินแดนอื่น ๆ ในยุโรปที่มีพรมแดนติดต่อกัน
เกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นสงครามนับครั้งไม่ถ้วน
ความเป็นเกาะ ที่เป็นเหมือนป้อมปราการตามธรรมชาติ ทำให้อังกฤษมีความได้เปรียบในการตั้งรับเมื่อมีศึกสงคราม และเมื่อมีความสูญเสียน้อย ก็มีทรัพยากรที่จะพัฒนาองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ “การเดินเรือ”
ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่กลางทะเลเหนือ และมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีลมแรง ทำให้ชาวอังกฤษค่อย ๆ พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินเรือ ทั้งเพื่อการประมง การติดต่อค้าขายกับประเทศต่าง ๆ และเพื่อการป้องกันประเทศ
สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้อังกฤษสามารถพัฒนากองเรือรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจทางกองทัพเรือของยุโรป
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 สเปนกับโปรตุเกสได้นำหน้าอังกฤษในเรื่องของการสำรวจดินแดนนอกทวีปยุโรป เป็นช่วงที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือรับจ้างของจักรวรรดิสเปน
ได้เดินทางมาถึงทวีปใหม่ แต่คิดว่าดินแดนตรงนี้คือทวีปเอเชีย
พอเรื่องเป็นแบบนี้จึงทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ ได้แต่งตั้ง จอห์น แคบอต
นักสำรวจชาวอิตาลี ให้เดินทางออกสำรวจเส้นทางไปยังเอเชียเช่นเดียวกันกับสเปน
โดยเดินเรือไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก
จอห์น แคบอต ได้เดินทางถึงทวีปใหม่ ซึ่งก็คือแคนาดาในปัจจุบัน
แต่เขาเข้าใจผิดว่าดินแดนแคนาดานี้คือทวีปเอเชียเช่นเดียวกันกับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
แต่พออเมริโก เวสปุชชี นักสำรวจชาวอิตาลี ได้เดินทางตามเส้นทางเดินเรือของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส มายังทวีปเอเชียอีกครั้ง เขาก็ได้พบกับความจริงว่า แผ่นดินตรงนี้ไม่ใช่ทวีปเอเชียแต่อย่างใด แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ จึงทำให้เขาตั้งชื่อทวีปนี้ว่า “อเมริกา” ตามชื่อของเขา..
หลังจากนั้น ชาติมหาอำนาจจากตะวันตกต่างก็ยกกองเรือมายังทวีปอเมริกา
และเริ่มที่จะตั้งอาณานิคมของตัวเองในทวีปใหม่แห่งนี้
จักรวรรดิอังกฤษภายใต้การปกครองของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ก็ได้ตั้งอาณานิคมของตน
ในฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาตอนเหนือ ตั้งแต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17
ด้วยความที่ดินแดนใหม่ในทวีปอเมริกา มีหลายประเทศในยุโรปพยายามจะเข้าไปยึดครอง
จึงทำให้เกิดการสู้รบกันบ่อยครั้งเพื่อที่จะแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติ
แต่เหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด กลับกลายเป็นการสู้รบระหว่างประชาชนในอาณานิคม กับเจ้าอาณานิคมเอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 ระหว่างจักรวรรดิอังกฤษ กับดินแดนในอาณานิคมบริติชอเมริกาที่ต้องการประกาศเอกราช
ผลของสงครามทำให้จักรวรรดิอังกฤษเป็นฝ่ายแพ้ และทำให้บริติชอเมริกาได้รับเอกราชในปี 1776 เกิดเป็นประเทศใหม่ที่ชื่อว่า “สหรัฐอเมริกา”
ถ้าเราคิดว่าจักรวรรดิอังกฤษต้องอ่อนแอลงเพราะสูญเสียดินแดนในอเมริกา เรื่องราวทั้งหมดจะไม่ใช่แบบนั้น
จากการที่ต้องสูญเสียบริติชอเมริกา จุดนี้เองได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมในดินแดนอื่นของจักรวรรดิอังกฤษอย่างเต็มตัว
ด้วยความที่จักรวรรดิอังกฤษมีกองเรือที่สามารถเดินทางรอบโลกได้แล้ว จึงทำให้พวกเขาออกเดินทางเพื่อล่าอาณานิคมแห่งใหม่เรื่อยมา
ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย, แอฟริกา, อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนถึงในช่วงปี 1920 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรวรรดิอังกฤษมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด
มากถึงขนาดที่ในสมัยนั้นจักรวรรดิอังกฤษสามารถครอบครองพื้นที่ได้มากกว่า 30 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นพื้นที่เกือบ 1 ใน 4 ของพื้นที่ทั่วโลก
มากกว่าพื้นที่ของสหภาพโซเวียตที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1917 ที่มีพื้นที่ประมาณ 22 ล้านตารางกิโลเมตร จึงทำให้จักรวรรดิอังกฤษในช่วงนั้นมีพื้นที่ในการปกครองมากที่สุดในโลก..
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงปี 1920 ดินแดนที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิอังกฤษทั้งหมดรวมกันแล้ว
จะมีจำนวนประชากรมากถึง 440 ล้านคน ซึ่งมากกว่าสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
ที่มีประชากร 110 ล้านคน ถึง 4 เท่า
อังกฤษในฐานะประเทศเจ้าอาณานิคมจะเข้าไปวางรากฐานให้ประเทศอาณานิคมมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการเมือง, การศึกษา, โครงสร้างพื้นฐาน, ศาสนา และเศรษฐกิจ
จึงทำให้ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษบางส่วนสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาต่อยอด จนพัฒนาเศรษฐกิจของตัวเองจนเจริญก้าวหน้าได้ เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดา หรือสิงคโปร์
เรื่องราวก็ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
ที่แต่ละประเทศต่างได้รับความเสียหายมากมายในช่วงสงคราม
ด้วยความที่อังกฤษเป็นคู่ขัดแย้งหลักในมหาสงครามทั้ง 2 ครั้ง
จึงทำให้ประเทศในอาณานิคมต้องมีความเกี่ยวข้องกับสงครามในที่สุด
โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษในภูมิภาคเอเชีย ได้ถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้าครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นอาณานิคมช่องแคบ, บริติชมาลายา, ฮ่องกง หรือพม่า ส่งผลให้จักรวรรดิอังกฤษเริ่มเสียอำนาจในการปกครองประเทศอาณานิคมดังกล่าว
ถึงแม้ว่าผลสรุปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 จักรวรรดิอังกฤษจะเป็นผู้ชนะสงคราม
แต่มหาสงครามทั้ง 2 ครั้ง ก็ทำให้จักรวรรดิอังกฤษได้รับความเสียหายมากมายนับไม่ถ้วน
จุดจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เอง ที่ทำให้ศูนย์กลางของชาติมหาอำนาจได้ถูกเปลี่ยนมือจากจักรวรรดิอังกฤษไปสู่สหรัฐอเมริกา
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ได้มีการเคลื่อนไหวของประชาชนในชาติอาณานิคมมากมายทั่วโลกเพื่อที่จะเรียกร้องเอกราชจากประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จักรวรรดิอังกฤษเริ่มกระบวนการการปลดปล่อยอาณานิคมและได้ก่อตั้ง The Commonwealth of Nations หรือ เครือจักรภพแห่งประชาชาติ โดยไม่ได้บังคับอดีตประเทศในอาณานิคมว่าต้องเข้าเป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติแต่อย่างใด
ประเทศที่เป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติจะไม่มีข้อผูกพันใด ๆ กับสหราชอาณาจักร
โดยจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งเครือจักรภพแห่งประชาชาตินี้คือ การให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ, หลักประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชน, การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ, ความเท่าเทียมทางเพศ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกเครือจักรภพแห่งประชาชาติอยู่ 54 ประเทศทั่วโลกในทุกทวีป
เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินเดีย, ปากีสถาน, แอฟริกาใต้ และอีก 49 ประเทศทั่วโลก
และในประเทศสมาชิก 54 ประเทศนี้ มี 16 ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันกับสหราชอาณาจักร ซึ่งก็คือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, จาเมกา และอีก 10 ประเทศ ซึ่งไม่รวมสหราชอาณาจักร
คำถามที่น่าสนใจก็คือ
สมมติถ้าเครือจักรภพแห่งประชาชาติเป็นประเทศเดียวกัน ซึ่งทุกรัฐและทุกดินแดนจะถูกปกครองโดยอังกฤษ ประเทศนี้มันจะใหญ่แค่ไหน ?
คำตอบก็คือ ประเทศ เครือจักรภพแห่งประชาชาติ จะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยจะมีพื้นที่รวมกันกว่า 29 ล้านตารางกิโลเมตร
มากกว่ารัสเซียที่มีพื้นที่ 17 ล้านตารางกิโลเมตร เกือบ 2 เท่า
ขนาดพื้นที่ของเครือจักรภพแห่งประชาชาติน้อยกว่าในช่วงที่เป็นจักรวรรดิอังกฤษ
ก็เพราะว่ามีบางประเทศที่เคยเป็นดินแดนในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ แต่พอได้เอกราชแล้วก็ไม่ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติ เช่น เมียนมาและอียิปต์
นอกเหนือจากขนาดพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีดินแดนตั้งอยู่ในทุกทวีปแล้ว
ประเทศนี้จะมีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม
ด้วยประชากรกว่า 2,400 ล้านคน จะทำให้มีประชากรมากที่สุดในโลก มากกว่าประเทศจีนที่มีประชากร 1,400 ล้านคน และยังมีวัยแรงงานที่พร้อมจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศอย่างมหาศาล
นอกเหนือจากแรงงานแล้ว ประเทศแห่งนี้จะกลายเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรน้ำมันที่มีในแคนาดา ไนจีเรีย และมาเลเซีย
ที่จะทำให้ประเทศนี้มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากกว่า 200 ล้านบาร์เรล
ซึ่งจะทำให้ประเทศนี้มีน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเวเนซุเอลาและซาอุดีอาระเบีย
แต่ถ้าใครคิดว่าประเทศนี้จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก คำตอบจะไม่เป็นอย่างนั้น
เพราะเครือจักรภพแห่งประชาชาติจะมีขนาด GDP โดยประมาณอยู่ที่ 351 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาที่ 668 ล้านล้านบาท และจีนที่ 447 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การสมมติเท่านั้น
เนื่องจากยุคล่าอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษได้สิ้นสุดลงแล้ว
ถ้าจะให้ถือว่าเป็นอย่างทางการจริง ๆ
ก็สิ้นสุดนับตั้งแต่อังกฤษได้คืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนในปี 1997
การสิ้นสุดลงของจักรวรรดิอังกฤษ ส่งผลให้ประเทศในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ มีความเป็นประเทศเท่าเทียมกัน กับเจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักรทุกประการ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.historic-uk.com/HistoryUK/HistoryofBritain/Timeline-Of-The-British-Empire/
-https://praenapa.wordpress.com
-https://www.worldometers.info/world-population/population-by-country/
-https://www.bbc.com/thai/international-43796090
-https://thecommonwealth.org/about-us/charter
-https://www.eia.gov/international/data/world/petroleum-and-other-liquids/
british petroleum 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
BP บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ที่วันนี้ต้องปรับตัว /โดย ลงทุนแมน
“มากกว่า 600,000 ล้านบาท” คือการขาดทุนในปีล่าสุด ของ British Petroleum หรือเรียกสั้นๆ ว่า BP
หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของอังกฤษ
หลายคนคงพอรู้กันแล้วว่า ช่วงที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมน้ำมันทั่วโลกกำลังเจอความท้าทายอย่างหนัก
ทั้งจากสงครามราคาน้ำมัน การระบาดของโควิด 19
รวมไปถึง แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงาน สู่พลังงานทดแทนในอนาคต
แล้ว BP ในตอนนี้ กำลังเจ็บหนักแค่ไหน
แล้วพวกเขามีแผนรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
British Petroleum หรือ BP เป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ของอังกฤษ
ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1909 หรือ 112 ปีที่แล้ว
ความยิ่งใหญ่ในอดีตที่ผ่านมาของ BP
ทำให้บริษัทถูกจัดอยู่ 1 ใน 7 บริษัทน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของโลก
ร่วมกับ Chevron, Eni, ExxonMobil, Royal Dutch Shell, Total และ ConocoPhillips
ซึ่ง 7 รายที่ว่านี้ ในวงการน้ำมัน เรียกกันว่า “Supermajors”
แต่ในปี 2020 ที่ผ่านมานั้น
ถือว่าเป็นปีที่สร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันอย่างหนัก
เมื่อราคาน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างมาก
ซึ่งเหตุผลหลักเกิดมาจาก
- สงครามราคาน้ำมันระหว่างรัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020
- การระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มหนักขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สองเรื่องนี้ อาจดูเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราว
เมื่อสงครามน้ำมันคลี่คลาย ราคาน้ำมันก็ดีดตัวกลับมา
และเมื่อสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย ราคาน้ำมันก็คงปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง
แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะสร้างความท้าทาย
ให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันมากที่สุดในตอนนี้
คือแนวโน้มของการใช้พลังงานในอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไป
ในตอนนี้ ทั่วโลกกำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
เปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานจากน้ำมัน ไปเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น
ซึ่งพลังงานทดแทนในที่นี้ ก็อย่างเช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานจากแสงอาทิตย์
หากเราลองมองย้อนกลับไป ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
รู้ไหมว่า การบริโภคน้ำมันทั่วโลกนั้นเพิ่มขึ้นเพียง 5.7% เท่านั้น
- ปี 2010 การบริโภคน้ำมันทั่วโลกต่อวันเท่ากับ 86.4 ล้านบาร์เรล
- ปี 2020 การบริโภคน้ำมันทั่วโลกต่อวันเท่ากับ 91.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนการใช้พลังงานทดแทน ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่างเช่น การนำมาผลิตไฟฟ้า
ลองมาดูสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ที่ผลิตมาจากพลังงานทดแทน
- ปี 2010 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกมาจากพลังงานทดแทน 19%
- ปี 2019 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกมาจากพลังงานทดแทน 27%
และมีการคาดการณ์กันว่า พลังงานทดแทนจะมีสัดส่วนในการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกถึง 45% ในปี 2040
นอกจากนี้ องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ หรือ International Energy Agency
ก็ได้ระบุว่า 90% ของโรงไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั่วโลกในปี 2020 เป็นการใช้พลังงานทดแทน เพื่อมาผลิตกระแสไฟฟ้า
ขณะที่มีเพียง 10% เท่านั้น ที่ยังเป็นการใช้น้ำมัน และถ่านหินมาผลิตไฟฟ้าอยู่
ความท้าทายหลากหลายที่ว่ามานี้
ทำให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งกำลังบอบช้ำอย่างหนัก ซึ่งก็รวมทั้ง BP
สะท้อนออกมาที่ผลประกอบการของบริษัท
ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ผลประกอบการของ British Petroleum
ปี 2018 รายได้ 8.9 ล้านล้านบาท กำไร 2.8 แสนล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 8.3 ล้านล้านบาท กำไร 1.2 แสนล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 5.4 ล้านล้านบาท ขาดทุน 6.1 แสนล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ การขาดทุนครั้งนี้
ยังถือเป็นการขาดทุนทั้งปีครั้งแรกในรอบ 10 ปี ของ BP อีกด้วย
พอเป็นแบบนี้ บริษัทจึงจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานทั่วโลกลงกว่า 10,000 ตำแหน่ง ในปีที่ผ่านมา
การขาดทุนอย่างหนักในปีล่าสุด
รวมทั้งแนวโน้มการลดการพึ่งการใช้น้ำมันในอนาคต
ยังสะท้อนออกมาที่มูลค่าบริษัทของ BP ที่ลดลงมาเหลือเพียง 2.3 ล้านล้านบาท
เทียบกับมูลค่าบริษัทของบริษัท BP เมื่อปี 2010 ที่เคยสูงถึง 4.1 ล้านล้านบาท
หรือหายไปเกือบครึ่งในระยะเวลาประมาณ 10 ปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อการใช้พลังงานมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
BP ก็เริ่มตื่นตัว และหันเข้าหาการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น
โดย BP ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในพลังงานสะอาด
จาก 15,000 ล้านบาท ในปี 2019 มาเป็น 150,000 ล้านบาท ภายในปี 2030
หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่า ภายใน 10 ปี ข้างหน้านี้
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า
อนาคตของ BP หลังจากการปรับตัวครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า
ธุรกิจที่เคยครองความยิ่งใหญ่ และรุ่งโรจน์ในอดีต
มันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดไป ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bp.com/en/global/corporate/news-and-insights/press-releases/from-international-oil-https://www.statista.com/statistics/271823/daily-global-crude-oil-demand-since-2006/
-https://en.wikipedia.org/wiki/BP
-https://finance.yahoo.com/quote/BP/financials?p=BP
-https://www.ft.com/content/d89f65d1-0c73-4575-aa11-8e770f8d90bd
- https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/rbrteD.htm
-https://www.bbc.com/news/explainers-52966609
-company-to-integrated-energy-company-bp-sets-out-strategy-for-decade-of-delivery-towards-net-zero-ambition.html
-https://www.theguardian.com/environment/2020/nov/10/renewable-energy-covid-19-record-growth-2020
-https://www.iea.org/data-and-statistics/charts/shares-of-global-electricity-generation-by-source-2000-2040
-https://www.greentechmedia.com/articles/read/bp-to-invest-5b-a-year-on-low-carbon-and-cut-fossil-fuel-output-by-40-percent-by-2030
british petroleum 在 時事英文 Podcast by ssyingwen Youtube 的最佳解答
英國爆發恐慌搶油潮,一些加油站燃料耗盡不得不關閉,還在營業的加油站外大排長龍。業者強調不是缺油,而是缺乏大型貨車司機導致運油供應鏈出問題,呼籲民眾拜託不要再囤積汽油了。英國政府週六宣佈將發放數千份緊急簽證給國外的卡車司機,但英國零售商協會表示已「太少、太晚」。
📝 講義 (只要 $88 /月):https://bit.ly/ssyingwen_notes
👉 網站 (相關文章 / 影片):https://ssyingwen.com/ssep57
🖼️ IG 單字卡: https://bit.ly/ssyingwenIG
———
本集 timestamps
0:00 Intro
0:59 第一遍英文朗讀
3:11 新聞 & 相關單字解說
13:35 額外單字片語
21:36 第二遍英文朗讀
———
臉書社團 (朗讀文字):https://www.facebook.com/groups/ssyingwen/posts/312049044014675/
朗讀內容參考了
Al Jazeera、BBC、AP
———
本集提到的單字片語:
England 🏴
Great Britain
United Kingdom (UK) 🇬🇧
Northern Ireland 北愛爾蘭
Wales 威爾斯
Scotland 蘇格蘭
British
English
Run out 耗盡
Unleaded petrol 無鉛汽油
Diesel 柴油
Petroleum / petrol (UK) 汽油
Gasoline / gas (US) 汽油
Petrol / gas station 加油站
Petrol / gas pumps 加油機
Fuel 燃料
Feel 感覺
Fill 填滿
Panic buying 恐慌購買
Fuel tankers 油罐車
Queue / line up 排隊
Jerrycan(s) 儲油桶
Shortage(s) 短缺
Terminals 輸油站
Refineries 煉油廠
Truck (US) / Lorry (UK) 卡車、貨車
Heavy goods vehicle (HGV) 重型貨車
Brexit 英國脫歐
Aging workforce 老齡化的勞動力
Supply chain 供應鏈
Labor shortage 勞工短缺
Suspend 暫停
Competition laws 競爭法
Ease 緩解
Emergency visas 緊急簽證
Boris Johnson 英國首相強生
Short-term fix 短期解決方案
British Retail Consortium 英國零售商協會
Jump the queue / line
Skip the queue / line
Cut the queue / line
Cringe
Cringey / cringy
Food for thought 值得認真考慮的事
♥️ 喜歡時事英文 podcast 嗎?♥️
你可以支持我繼續錄製 podcast 👉 https://bit.ly/zeczec_ssyingwen
————
#podcast #國際新聞 #英文聽力 #學英文 #英文筆記 #英文學習 #英文 #每日英文 #托福 #雅思 #雅思英語 #雅思托福 #多益 #多益單字 #播客 #英文新聞 #taiwanpodcast
british petroleum 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
It's something that I take for granted living in China, but Gas stations are very different here, not self serve, very different products on offer in the very limited stores, and very poorly located! Come with me as I put gas/petrol in the car and see for yourself exactly how Chinese Gas Stations work!
⚫ Watch Conquering Southern China (my documentary) and see China like no one outside of China has ever seen it before: https://vimeo.com/ondemand/conqueringsouthernchina
⚫ Support me on Patreon: http://www.patreon.com/serpentza
Join me on Facebook: http://www.facebook.com/winstoninchina
Twitter: @serpentza
Instagram: serpent_za
My other channel: https://www.youtube.com/c/advchina
Music used: Nighthawk - Annie
british petroleum 在 British Petroleum - BP - YouTube 的推薦與評價
BP plc is a British multinational oil and gas company headquartered in London, England. It is one of the world's seven oil and gas ... ... <看更多>