สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการมาดูงาน Social Enterprise ที่ลอนดอนกับ British Council วันที่ 3
1. คนทำ SE ทุกคนที่เจอล้วนแต่ทำสิ่งที่ตัวเองรักและถนัดทั้งนั้น
2. นั่นเลยทำให้รู้ว่า SE ไม่ใช่เครื่องประดับ ที่ทำเพื่อบอกให้ชาวโลกรู้ว่าฉันไม่ตกเทรนด์ หรือ ทำไว้เพื่อบ่งบอกสถานะทางสังคม เหมือนที่หลายองค์กรและหลายคน ทำงาน CRS, ตั้งมูลนิธิ หรือทำโครงการเพื่อสังคม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ตัวเองดูดี มากกว่าอยากแก้ปัญหาจริงๆ
3. คนทำงาน SE ที่เจอไม่ได้ทำเพราะอยากทำ SE เขาแค่อยากทำงานที่เขารัก และอยากให้งานนั้นมีส่วนช่วยให้ชีวิตคนอื่นดีขึ้น SE เป็นแค่รูปแบบในการทำเท่านั้นเอง
4. งานอาหารร้านหนึ่งที่ปลูกผักในร้านตัวเอง เพราะอยากเอาฟาร์มเข้ามาไว้กลางเมือง เขาประกาศไอเดียนี้ให้คนในท้องถิ่นรับรู้ เขาบอกว่าวันเปิดร้าน มีคนมาร่วมเป็นร้อย (ร้านเขารับลูกค้าได้สิบกว่าคนเท่านั้น) หลักๆ ก็คือ มาเพื่อถามว่า พวกเขาช่วยอะไรได้บ้าง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าเรามีไอเดียที่ดีพอ ยังไงก็มีคนช่วย
5. หลายวันมานี้เจอคนที่สร้างอาชีพให้ผู้ด้อยโอกาส ด้วยการฝึกทำอาหาร ฝึกซ่อมจักรยาน รวมถึงสอนให้ทำธุรกิจ แต่ทุกโครงการที่ว่ามา เขาไม่ได้ฝึกทักษะอาชีพแค่นั้น เขายังสอนทักษะอื่นๆ ด้วยเช่น ทักษะในการทำงานเป็นทีม การเข้าสังคม ฯลฯ เขาพูดตรงกันว่า ถ้ามีทักษะอาชีพอย่างเดียวไม่ได้แปลว่าจะทำงานได้จริง แต่ถ้ามีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ถึงไม่ทำอาชีพนี้ ก็เอาตัวรอดไปทำอาชีพอื่นได้
6. ได้กินร้านอาหาร SE เป็นร้านที่สาม ถือว่าอร่อย 2 ร้าน และไม่อร่อย 1 ร้าน ซึ่งเป็นร้านของพ่อครัวดังที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจมาก กินแล้วก็คิดได้ว่า เขาควรตั้งใจขายอาหาร มากกว่าขายเรื่องราวนะ
7. ตอนเย็นไปงานของ Ashoka อาหารที่เอามาเลี้ยงแขก เขาจ้างร้านอาหารเล็กๆ (ซึ่งเป็นร้านทางเลือก) มาทำให้ เขาหลุดพ้นจากการใช้ภาชนะย่อยสลายได้ หรือ ทำอาหารออแกนิกไปไกลมาก เพราะร้านอาหารที่เลือกมา เป็นร้านคอนเซปต์จัด เช่น ร้านซูชิที่ไม่ใช้ปลา แต่ใช้เป็ดแทน เพื่อรณรงค์ให้หยุดการล่าปลาจนจะหมดมหาสมุทรอยู่แล้ว (เผื่อใครไม่รู้ ปลาทูน่าบนโลกนี้ใกล้สูญพันธุ์เพราะล่ามาทำซูชินี่แหละ) หรือร้านกาแฟที่ชงบนจักรยาน ด้วยคอนเซปต์ร้านกาแฟใช้พลังงานขา ฯลฯ อาหารของพวกเขาไม่ได้มีไว้แค่กิน หรือ เลี้ยงแขก แต่มันยังเป็นการประกาศจุดยืนของเจ้าของงานว่า มีมุมมองต่อเรื่องต่างๆ อย่างไร
8. มีโครงการหนึ่งทำสวนผักและดอกไม้ใกล้ๆ ไซต์ก่อสร้าง เห็นดอกไม้พวกนี้แล้วนึกถึงคนทำงานเพื่อสังคม คนเมืองส่วนใหญ่แหงนหน้ามองคนสร้างตึก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ก้มหน้ามองคนปลูกดอกไม้ ก็จะเห็นความงดงามเล็กๆ ในเมืองซึ่งหลายคนมองว่าไม่จำเป็น แต่ผมว่า ต้นไม้ดอกไม้พวกนี้จำเป็นไม่น้อยไปกว่าตึกนะ เพราะมันผลิตออกซิเจนให้เราหายใจ และสีสันของพวกมันก็เป็นที่พักสายตาได้
9. เดินผ่านไซต์ก่อสร้างออฟฟิศใหม่ของกูเกิ้ลที่ใหญ่ระดับอาณาจักร แล้วเห็นความน่ารักอย่างหนึ่ง (ซึ่งไซต์ก่อสร้างอื่นๆ ก็คงมี) บนแนวกำแพงรอบไซต์ นอกจากจะเพนต์รูปใบไม้ให้สบายตาแล้ว ยังเจาะช่องใสขนาดใหญ่กว่าหัวเล็กน้อย ให้เราส่องดูได้ว่า หลังกำแพงสูงมันคืออะไร พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ แค่นี้ก็เพิ่มความเป็นมิตรให้กับไซต์ก่อสร้างได้เยอะ
9. เมื่อเช้าออกไปวิ่งตอนตีห้า แล้วก็พบว่า ถึงฟ้าจะมืดตื๋อ อุณหภูมิเลขตัวเดียว แต่ก็มีเพื่อนร่วมวิ่งเยอะมาก บรรยากาศรวมๆ ดีจนเสียดายว่าทำไมไม่ตื่นไปวิ่งตั้งแต่วันแรกนะ เสียดายที่พรุ่งนี้มีงานตั้งแต่เช้าตรู่เลยอดวิ่งเลย
